โฉนดที่ดินทั้ง 3 ฉบับนี้ตกทอดมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 8 ปรากฏหลักฐานสารบัญจดทะเบียนว่าเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2478 พระองค์ทรงให้จุฬาฯ เช่าที่ดินเป็นเวลา 30 ปี แต่พอถึง 12 ธันวาคม 2483 รัฐบาลจอมพล ป. ก็โอนเปลี่ยนนามผู้ถือเป็นกระทรวงการคลัง (สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์) และในวันเดียวกันจุฬาฯ ก็ทำสัญญาเลิกเช่าและกระทรวงการคลังก็ “ให้” ที่ดินสองแปลงนี้แก่จุฬาฯ
คณะราษฎรโดยจอมพล ป. ทำให้จุฬามีรายได้มหาศาลจากการให้เช่าที่ดินทั้งแก่ภาครัฐและภาคเอกชน กลายเป็นทรัพยากรสำคัญของจุฬาฯ ในการพัฒนาการเรียนการสอนและความสะดวกสบายแก่บุคลากรของจุฬาฯ จนถึงทุกวันนี้ มีตัวเลขรายได้ของจุฬาฯ ว่า “ในปี 2558. . .รายได้จากรัฐบาล 7,117 ล้านบาท รายได้จากการดำเนินงานของสำนักงานจัดการทรัพย์สิน 4,950 ล้านบาท (ในปัจจุบันปี 2563 คงมากกว่านี้มาก) รายได้จากการจัดการศึกษา 2,927 ล้านบาท โดยรายได้รวมทั้งหมดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือ 21,538 ล้านบาท” <4> จอมพล ป. ในนามของคณะราษฎรจึงเป็นผู้ที่ทำให้จุฬาฯ มีรายได้มหาศาลหลายพันล้านบาทต่อปีในขณะที่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ได้รับงบประมาณแผ่นดินน้อยกว่ารายได้ของจุฬาฯ ก้อนนี้ด้วยซ้ำไป
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ “ที่ดินจุฬาฯ มาจากไหนกันแน่” ที่ https://bit.ly/2Q8HyFV
อ้างอิง
<1> Wikipedia. แปลก พิบูลสงคราม. https://bit.ly/3jP82tR
<2> พระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินอันเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ตำบลปทุมวัน อำเภอปทุมวัน จังหวัดพระนคร ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พุทธศักราช 2482 http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2482/A/1364.PDF
<3> ตามข้อ <2>
<4> ลงทุนแมน. ทรัพย์สินของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. https://www.longtunman.com/10549
|