1.พัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่และแบรนด์ใหม่ในประเทศไทย อาทิ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ Rojukiss, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวภายใต้แบรนด์ใหม่ Wonder Herb นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งการทำวิจัยตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่และทดสอบผลิตภัณฑ์เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้บริโภค พร้อมพัฒนาสื่อสารการตลาดผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง
2.ลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่องทางการขายตรงแก่ผู้บริโภค (Direct-to-consumer: D2C) ที่ช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงและต้องการความสะดวกสบายด้วยการซื้อผ่านช่องทางโดยตรงกับแบรนด์ โดย ร่วมมือกับ บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) ซึ่งคาดว่ากระบวนการจัดตั้งจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3 ปี 2564 โดย KISS ถือหุ้นในสัดส่วน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
3.ลงทุนขยายธุรกิจในต่างประเทศ ใน 2 ประเทศหลัก ได้แก่ อินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพที่มีศักยภาพเติบโตสูง โดยเฉพาะการเติบโตของช่องทางออนไลน์ (E-Commerce) บริษัทฯ ได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) กับบริษัทท้องถิ่นในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีความรู้ความสามารถในการจัดจำหน่ายและทำการตลาดแบบ Omni-channel ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในอินโดนีเซีย นอกจากนี้จะเริ่มขยายธุรกิจสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามผ่านช่องทางออนไลน์ในประเทศเวียดนาม
และ 4.ลงทุนในการพัฒนาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี ที่จะเข้ามาช่วยผลักดันการพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง พร้อมพัฒนา Mobile Skin Analysis เพื่อเป็นเครื่องมือวิเคราะห์สภาพผิว ซึ่งผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวตามคำแนะนำผ่านการเชื่อมต่อช่องทาง E-commerce ได้ทันที คาดว่าจะเริ่มใช้งานภายในปี 2564 ก่อนจะขยายการให้บริการไปยังประเทศอินโดนีเซียและเวียดนามอีกด้วย
|