อลิสา เล่าถึงแนวคิดในการออกแบบเบเกอรี่ของร้านว่า จะเน้นเป็นแบบที่นิยมในช่วงนั้น ๆ เช่น ณ ตอนนี้ เค้กแนวมินิมอลกำลังได้รับความนิยม เป็นแบบที่ลูกค้าต้องการ เราก็จะตกแต่งแนวเรียบ ๆ เก๋ ๆ เน้นสีพาสเทลอ่อน ๆ ให้ดูสบายตา ไม่ตกแต่งมากเกินไป แต่หากเป็นช่วงคริสมาสต์ ลูกค้าส่วนใหญ่จะรู้และรอมาสั่งเพราะเราจะทำปีละครั้ง เน้นทำแบบให้เข้าธีมช่วงเทศกาล มีตัวปั้นน้ำตาลฟองดองท์เป็นซานตาคลอส สโนว์แมน บีบครีมเป็นต้นคริสมาสต์ เน้นสีให้เข้ากับบรรยากาศ สีแดง สีเขียว สีเหลือง ส่วนเค้กของที่ร้านซึ่งเป็นที่นิยมมาโดยตลอด จะเป็นพวกคัพเค้กผลไม้ เค้กแมคคาเดเมีย เราจะดัดแปลงการแต่งหน้าของเค้กให้ใหม่อยู่ตลอด อาจจะวางใบโรสแมรี่ 1 ก้าน หรือปักป้าย HBD สวย ๆ ให้ดูไม่ซ้ำ ส่วนช่วงเทศกาลตรุษจีน เราก็นำเค้ก Red Velvet มาดัดแปลง เปลี่ยนจากสีแดง เป็นสีส้ม ทำวุ้นลูกส้มวางบนเค้ก ใส่กล่องสีขาว ผูกโบว์สีแดง จากเค้กเดิม ๆ เราก็ได้เมนูใหม่ขึ้นมาด้วยการดัดแปลง
ส่วนช่องทางการจำหน่าย อลิสา บอกว่า เน้นขายออนไลน์อย่างเดียวเลย เพราะคิดว่าช่วงนี้คงไม่ค่อยมีใครอยากเดินทางมากนัก ช่องทางออนไลน์น่าจะสะดวกที่สุด ลูกค้าอยู่บ้าน พิมพ์สั่งขนมจากทางร้านและรอรับที่ประตูหน้าบ้านได้เลย โดยที่ไม่ต้องออกมาเสี่ยงกับโควิด-19 และ ฝุ่น pm 2.5 หรือ ต้องวนหาที่จอดรถนานๆ
อลิสา ยังเล่าถึงวิธีการรับมือกับออร์เดอร์ที่มาแบบรัว ๆ ว่า อันดับแรกต้องจัดเวลาทำงานก่อน โดยทางร้าน จะตอบข้อความเป็นรอบ ๆ และถ้าช้าเราก็จะใช้วิธีบรอดแคส แจ้งลูกค้าทุกคนว่าตอนนี้เรากำลังทำงานนะคะ อีกสักพักเราจะเข้าไปตอบไลน์และขอโทษที่ให้รอนานเพราะทางร้านทำระบบโฮมเมด ตอบไลน์เอง/แต่งเค้กเอง ส่วนใหญ่ลูกค้าเข้าใจและรอ ซึ่งเราก็ใช้วิธีแบบบ้าน ๆ และจริงใจกับลูกค้าแบบนี้ เพราะที่ร้านไม่มีแอดมินตั้งแต่เริ่มขายแล้ว
เมื่อมาถึงจุดนี้ “อลิสา” บอกว่า ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับที่พอใจ เพราะเป็นรายได้ที่สามารถดูแลครอบครัว สามารถที่จะช่วยแบ่งเบาภาระคุณพ่อที่เป็นหัวหน้าครอบครัวได้ และมีรายได้มากกว่างานประจำที่เคยทำ
สุดท้าย “อลิสา” ยังฝากให้กำลังใจทุก ๆ คน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และฝากอาชีพการทำเบเกอรี่ ไว้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบอาจถูกพักงานหรือถูกให้ออกจากงานประจำ โดยชี้ช่องว่าเบเกอรี่อาจเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้และสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตได้อย่างดี |