บริษัทฯ จะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญผสมผสานกับจุดแข็งของไทยออยล์มารีน เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจในการให้บริการแก่ลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น โดยคาดการณ์ว่ากลุ่มธุรกิจเรือขนส่งภายในประเทศจะทยอยฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจ Offshore ที่มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสำรวจปิโตรเลียมในทะเลเพิ่มขึ้นเช่นกัน
“การเข้าซื้อหุ้นสามัญไทยออยล์มารีนครั้งนี้ทำให้เกิดการ Synergy กับกลุ่มไทยออยล์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจในระยะยาวจากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงด้านการขนส่งพลังงานของประเทศ และจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันการเติบให้แก่ PRM อย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายวิริทธิ์พล กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเข้าซื้อหุ้นสามัญที่เหลืออีก 20% ของ บริษัท บิ๊กซี จำกัด (Big Sea) ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปทางทะเลภายในประเทศ ซึ่งจะเข้ามาช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งด้านผลการดำเนินงานให้แก่ PRM โดยคาดว่ากระบวนการซื้อหุ้นสามัญในครั้งนี้จะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 เช่นกัน
|