· สินค้าเปิดใจ โดยได้มีการเลือกนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงทุกคน เป็นสินค้าที่ตอบโจทย์เทรนด์ในปัจจุบัน เช่น เทรนด์การดูแลสุขภาพ มีแพ็คเกจจิ้งที่เป็น instagenic นอกจากนี้ยังมีการปรับรูปแบบของผลิตภัณฑ์ให้น่าสนใจ มีสตอรี่ที่ง่ายต่อการทำคอนเทนต์มากขึ้น สามารถแชร์ต่อในโลกโซเชียลได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ n* by Nutrilite ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่งเปิดตัวในปีนี้
· การสร้างคอมมูนิตี้ โดยมีการทำกิจกรรมรวมกลุ่มคนที่มีเป้าหมายและความสนใจเดียวกันเข้าด้วยกันในโลกออนไลน์ และอาจจะต่อยอดมาทำกิจกรรมแบบออฟไลน์ได้ เพื่อให้คอนเทนต์มีความสนุก น่าสนใจ และทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจาก 2 เครื่องมือนี้แล้ว แอมเวย์ยังจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพของนักธุรกิจแอมเวย์ให้เป็น Amway Creators ที่สมบูรณ์แบบ และสามารถสร้าง Social Community ของตนเองได้ ได้แก่
· การสร้างตัวตนในแบบของแต่ละบุคคล ด้วยการค้นหาจุดเด่นเฉพาะตัว เพื่อนำมาพัฒนาและส่งเสริมให้ตรงกับความถนัด สร้างจุดแข็งที่ไม่ซ้ำใคร
· การเรียนรู้แนวคิดการทำคอนเทนต์ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างคอนเทนต์ เช่น อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังจากสายสุขภาพและความงาม เพื่อนำไปต่อยอดนำเสนอผลิตภัณฑ์แอมเวย์ให้มีจุดดึงดูดน่าสนใจ
· การรับฟังประสบการณ์การสร้างคอมมูนิตี้ออนไลน์ ด้วยการเทรนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสร้างคอมมูนิตี้ ทำความรู้จักแพลตฟอร์มออนไลน์ที่กำลังเป็นที่นิยม รวมถึงเทคนิคการขายสินค้าบนโซเชียลมีเดีย
· การสร้างมาตรฐานการสื่อสารดิจิทัลสำหรับสินค้าแต่ละประเภท ด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับกฎเกณฑ์การใช้ข้อความโฆษณาบนสื่อดิจิทัลและตรวจสอบให้การสื่อสารต่างๆ ถูกต้องทางกฎหมายและจรรยาบรรณ
“ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ เพื่อให้แบรนด์และนักธุรกิจแอมเวย์สามารถปรับตัวและประสบความสำเร็จในทุกสถานการณ์ โดยจุดเด่นของของแอมเวย์คือ การสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้แบบที่สามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา และเลือกพัฒนาตนเองในทักษะด้านใดก็ได้ ผ่านเว็บไซต์ eLearning ของแอมเวย์ ทั้งหมดนี้เป็นโอกาสที่แอมเวย์เตรียมไว้ให้กับทุกคนที่ต้องการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ที่ชอบให้เป็นรายได้ที่ยั่งยืน และพร้อมที่จะก้าวสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน” นายกิจธวัช กล่าวทิ้งท้าย
|