สำหรับกลยุทธ์ที่วางไว้เพื่อให้ เรนท์สพรี ไปถึงเป้าหมาย ประกอบไปด้วย 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
1. People - ในการพัฒนาแพลตฟอร์ม “คน” ถือเป็นกำลังหลัก นอกจากนั้น วัฒนธรรมองค์กรและการพัฒนาบุคลากร ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่เรนท์สพรีให้ความสำคัญ เรนท์สพรี มุ่งมั่นที่จะสร้างบรรยากาศการทำงานให้รองรับคนรุ่นใหม่ รวมถึงเตรียมพร้อมเรื่องสวัสดิการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมทักษะให้กับพนักงาน เพื่อพัฒนาบุคลากรปัจจุบันให้เก่งไม่แพ้บุคลากรชั้นนำตามบริษัทฯ ระดับโลกใน Silicon Valley ที่สหรัฐอเมริกา
2. Growth - การสร้าง เรนท์สพรี ให้เป็นแพลตฟอร์มการเช่าบ้านที่ครบวงจรมากขึ้น และกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับนายหน้า เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ และผู้เช่าทุกๆ คน ทั้งนี้ ก็เพื่อให้มีอัตราผู้ใช้งานที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ
3. Partner - การเพิ่มจำนวนพาร์ทเนอร์และสร้างเทคโนโลยีใหม่ ทั้งนี้ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นกับลูกค้าผู้ใช้งาน และช่วยให้บริษัทฯ เข้าถึงตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
4. Brand - การเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของการเช่าบ้านจากธุรกรรมเป็นความสัมพันธ์ระยะยาว เรนท์สพรี จะเป็น PropTech สตาร์ทอัพเจ้าแรกที่จะทำให้การเช่าบ้านเป็นเรื่องที่ง่าย รวดเร็ว และปลอดภัย
คุณปอม- เอกบุตร สิริศุภางค์ กรรมการผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการหรือ COO และผู้ร่วมก่อตั้ง เรนท์สพรี กล่าวว่า “สำหรับ เรนท์สพรี กลยุทธ์สำคัญที่จะขับเคลื่อน บริษัทฯ ไปสู่เป้าหมายในการก้าวไปสู่ระดับยูนิคอร์นนั้น สิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก คือ People คนไทยเป็นบุคคลากรที่มีความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก แน่นอนว่า เรนท์สพรี เป็นสตาร์ทอัพสัญชาติไทย เราจึงต้องการเฟ้นหาบุคลากรคนไทยให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับเรา เราพร้อมที่จะพัฒนาบุคลากรให้เติบโตไปพร้อมกับบริษัทฯ เดินหน้าสู่เป้าหมายไปพร้อมกับเรา เรนท์สพรี มุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการเช่าบ้านในระดับโลก เพื่อยกระดับชีวิตของผู้คน ให้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และเชื่อมโยงกันได้มากขึ้นภายในแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งเราได้ตั้งเป้าว่าต้องไปสู่จุดนั้นให้ได้ภายใน 3 ปีต่อจากนี้ เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ว่า เราได้สร้างสิ่งที่มีประสิทธิภาพและสามารถแก้ไขปัญหาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้จริง พร้อมขยายต่อยอดแพลตฟอร์มให้ใช้ได้ในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยในอนาคต”
|