นายพิชิต อัคราทิตย์ ประธานกรรมการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “แม้การเปลี่ยนแปลงจะยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องและซับซ้อนมากขึ้น อีกทั้งมีแนวโน้มที่จะรุนแรงและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ด้วยบทบาท หน้าที่ สรรพกำลังและทรัพยากรของตลาดทุนไทยที่ยังคงเข้มแข็ง จึงทำให้ตลาดทุนไทยยังคงมีศักยภาพและบทบาทสำคัญที่สามารถช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจและพัฒนาสังคมไทยให้ก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม และยั่งยืน ได้แก่ บทบาทในการสร้างการมีส่วนร่วม บทบาทการพัฒนากลไกและสภาพแวดล้อมที่จะสร้างประโยชน์ไปถึงกลุ่มธุรกิจในเศรษฐกิจยุคใหม่และ บทบาทการส่งเสริมศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศผ่านการสนับสนุนเทคโนโลยีและดิจิทัล ขณะเดียวกัน ก.ล.ต. ได้ดำเนินหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือของตลาดทุนไทยอย่างต่อเนื่อง”
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “แผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2565 – 2567 มีความเชื่อมโยงและสอดรับกับทิศทางของประเทศตั้งแต่ระดับแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนระดับรองต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ตลอดจนทิศทางแผนพัฒนาตลาดทุนไทยฉบับใหม่ โดยในกระบวนการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ฯ ได้มีการติดตาม วิเคราะห์ผลกระทบจากสถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ พร้อมทั้งรับฟังความเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อให้มีข้อมูลที่ครบถ้วนและรอบด้าน ซึ่งทั้งหมดนี้ได้นำไปสู่การกำหนดเป้าหมายและแผนยุทธศาสตร์ฯ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ อย่างแท้จริง อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน และนำมาซึ่งความร่วมมือในการขับเคลื่อน และผลักดันให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อไป”
ตามแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2565 – 2567 มุ่งบรรลุวัตถุประสงค์ 3 ด้าน ได้แก่ การเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน การสร้างการมีส่วนร่วม และการสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่น โดยมีเป้าหมายหลัก (key result)
5 ด้าน ดังนี้
(1) ตลาดทุนเป็นกลไกสำคัญในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง
(2) การเป็นตลาดทุนดิจิทัล เพื่อส่งเสริมศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศ
(3) การยกระดับศักยภาพตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน (sustainable capital market)
(4) ตลาดทุนมีระบบนิเวศที่เหมาะสม ยืดหยุ่น ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเอื้ออำนวยต่อการพัฒนา
และกำกับดูแลให้สอดรับกับฉากทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมเชื่อมโยงและเป็นที่ยอมรับในสากล
(5) ผู้ลงทุนมีศักยภาพในการสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดี
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้กำหนดให้มีแผนองค์กรนวัตกรรมซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ (enabler) ที่จะช่วยส่งเสริมการขับเคลื่อนและผลักดันภารกิจให้เกิดผลสัมฤทธิ์และบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีเสวนาในหัวข้อ “แผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. กับทิศทางเศรษฐกิจและตลาดทุนปี 2565” โดยได้รับเกียรติจาก นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ดร.นณริฎ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย และนายศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย มาร่วมสะท้อนมุมมองต่อแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2565-2567 ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาตลาดทุนไทยสู่อนาคต โดยมีนางสาวศิรัถยา อิศรภักดี เป็นผู้ดำเนินรายการ
|