รวมไปถึง ‘คุณศิธา ทิวารี’ ที่มองว่า ไม่ควรต่อสัญญาสัมปทานกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวเช่นเดียวกัน และ จะผลักดันตั๋วร่วมให้เกิดขึ้นให้ได้ ขณะที่ ‘คุณอัศวิน ขวัญเมือง’ เห็นว่า การต่อสัญญาสัมปทานกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวและการเก็บค่าโดยสารในราคาสูงสุดไม่ 65 บาท จะทำให้มวลชนสามารถเข้าถึงบริการรถไฟฟ้าได้ นอกจากนี้ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ยังเสนอนโยบายที่ต้องการทำให้ระบบขนส่งมวลชนมีคุณภาพ เชื่อมต่อกันได้อย่างไร้รอยต่อ ในด้าน ‘คุณสกลธี ภัททิยกุล’ ก็มีความพยายามจะเชื่อมล้อ ราง เรือ ให้เกิดขึ้นทั่วกรุงเทพฯ ขณะเดียวกัน ‘คุณสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์’ มีความพยายามที่จะแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ด้วยการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยจัดการ
ถัดมาในประเด็นอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. แต่ละคนมีความพยายามที่จะทำให้ กทม. มีผังเมืองที่น่าอยู่ โดนพยายามจะแบ่งโซนของผังเมืองให้เป็นสัดเป็นส่วน รวมถึงมีการนำเสนอนโยบายในการจัดระเบียบไม่ให้กลุ่มทุนเข้ามาครอบครองผังเมืองด้วย
ขณะที่ประเด็นด้านการเงินการธนาคารนั้น เน้นไปการทำให้ผู้สูงอายุ เด็ก คนพิการ หรือคนที่เกษียณอายุไปแล้ว มีรายได้ที่ได้รับการอุดหนุนจากส่วนกลางเพิ่มมากขึ้น ทั้งการเพิ่มเงินผู้สูงอายุ เพิ่มเงินของเด็กและคนพิการ รวมถึงการเพิ่มเงินบำนาญให้ประชาชน
ส่วนประเด็นด้านสินค้าและบริการทั่วไป ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. อย่างคุณวิโรจน์ เน้นไปที่การทำให้ศูนย์เด็กเล็กมีคุณภาพ มีมาตรฐานทัดเทียมเทียบกับของเอกชนได้ ส่วนคุณอัศวินเน้นไปที่การทำให้หน่วยงานราชการ กทม. มีความโปร่งใส เชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ ได้ทันท่วงทีและรวดเร็ว ขณะที่คุณรสนาเน้นไปที่การทำให้การค้าขายเป็นไปอย่างถูกกฎหมายมากยิ่งขึ้น รวมถึงเน้นให้มีความสะอาด ปลอดภัย และมีพื้นที่ทำเลที่ดีในการรองรับการค้าขาย
ด้านประเด็นบริการสุขภาพ ส่วนใหญ่เน้นนำเสนอนโยบายที่ดูแลสุขภาพประชาชน หรือการเข้ารับการรักษาพยาบาล ให้เป็นไปอย่างทันท่วงที ทั่วถึง ครอบคลุมทุกพื้นที่ และมีระบบที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น
มาต่อที่ประเด็นบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ทั้ง 7 คน เน้นหนักในการเพิ่มพื้นที่สีเขียว มีสวนสาธารณะมากขึ้น รวมทั้งการจัดการปัญหาขยะ ทั้งการจัดเก็บขยะให้เป็นระบบ แยกขยะให้มากขึ้น และเปลี่ยนขยะให้เป็นรายได้ เริ่มที่คุณวิโรจน์ นำเสนอนโยบายเปลี่ยนที่รกร้างเป็นสวนสาธารณะ ขณะที่คุณสกลธีมีความพยายามที่จะลดขยะ และ แยกขยะให้มากขึ้น อีกทั้งการเพิ่มสวนสาธารณะขนาดเล็กทั่วเมือง ด้านคุณสุชัชวีร์จะปฏิวัติระบบการจัดเก็บขยะ จัดการฝุ่น PM2.5 และผลักดันสวนสาธารณะฉบับกระเป๋า ส่วนคุณอัศวินจะเดินหน้าปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและทำคลองต่าง ๆ ให้น้ำในคลองใสขึ้น ขณะที่คุณรสนานั้นเน้นไปทำเรื่องกองทุนหลังคาบ้านโซลาร์เซลล์ ด้านคุณชัชชาติมีการนำเสนอแนวคิดเปลี่ยนขยะเป็นรายได้ และ ผลักดันเรื่องสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นด้วย ปิดท้ายที่คุณศิธาที่จะผลักดันให้มีพื้นที่รองรับสังคมผู้สูงอายุ รวมถึงเพิ่มพื้นที่สีเขียวใน กทม. ให้มากขึ้น
ส่วนในประเด็นการสื่อสาร โทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ แต่ละคนพยายามทำให้ กทม. กลายเป็นเมืองดิจิทัล โดยการติดตั้งไวไฟฟรีทั่วเมือง เตรียมพร้อมในเรื่องความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ รวมถึงการปรับเปลี่ยนระบบการยื่นขอใบอนุญาตต่าง ๆ ให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่ในประเด็นอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ นั้น ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. อย่างคุณสุชัชวีร์ เน้นนโยบายเรื่องอาหารดี มีคุณภาพ ขณะที่คุณรสนาเน้นนโยบายที่ทำให้อาหาร ยา ผลิตภัณฑ์สุขภาพต่าง ๆ ถูกกฎหมาย มีคุณภาพ ปลอดภัย มากยิ่งขึ้น และในประเด็นสุดท้าย อย่างประเด็นการศึกษา แต่ละคนมีการนำเสนอนโยบายที่ทำให้โรงเรียนเป็นสถานที่ที่ตอบโจทย์นักเรียน ปรับหลักสูตรมีคุณภาพและเหมาะสมขึ้น รวมถึงสนับสนุนให้โรงเรียนมีพื้นที่ให้เอื้อต่อการทำกิจกรรมอื่น ๆ สำหรับเด็ก
|