Debt deleveraging แบบใด เศรษฐกิจไทยจะไปต่อได้
dot dot
Debt deleveraging แบบใด เศรษฐกิจไทยจะไปต่อได้

Debt deleveraging แบบใด เศรษฐกิจไทยจะไปต่อได้

 
 

KEY SUMMARY

กระบวนการลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยต่อ GDP จะท้าทายกว่าที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

กระบวนการลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยต่อ GDP (Debt deleveraging) เป็นกระบวนการสำคัญที่จะช่วยลดความเปราะบางทางการเงินให้แก่ภาคครัวเรือนจากการบรรเทาปัญหาหนี้ ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ดี กระบวนการลดหนี้ของไทยในระยะต่อไปจะเผชิญความท้าทายกว่าในอดีต เนื่องจากเศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำลงมาก ส่งผลให้รายได้ครัวเรือนฟื้นตัวช้าไปด้วย ภาวะนี้ต่างจากในอดีตที่กระบวนการ Deleveraging เกิดขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีต่อเนื่อง การลดหนี้ครัวเรือนไทยในรอบนี้จึงเป็นเรื่องยากมากยิ่งขึ้น

Debt deleveraging เหมือนจะคืบหน้า แต่อาจไม่ช่วยปลดล็อกครัวเรือนจากปัญหาหนี้

แม้ตัวเลขสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ของไทยในภาพรวมจะลดลงต่อเนื่องในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปี 2024 แต่ภาพที่ดูเหมือนจะคืบหน้านี้ เกิดขึ้นเพราะตัวเลขหนี้ครัวเรือนขยายตัวต่ำเป็นประวัติการณ์เป็นหลัก ตามความเสี่ยงของลูกหนี้รายย่อยที่เพิ่มขึ้นมาก ขณะที่ตัวเลข GDP ขยายตัวได้ต่ำ หากสถานการณ์ตัวเลขหนี้ครัวเรือนและตัวเลข GDP ไทยขยายตัวต่ำทั้งคู่ยังคงดำเนินต่อไป อาจเห็นผลลบต่อการฟื้นตัวของรายได้ครัวเรือนในอนาคตตามมา ยิ่งจะทำให้การใช้คืนหนี้เดิมทำได้ยากขึ้น

ดังนั้น การที่เห็นสัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยต่อ GDP ลดลงต่อเนื่องมา 2 ไตรมาสติดกัน อาจไม่ใช่เครื่องชี้ที่ดีพอจะสรุปได้ว่า ครัวเรือนไทยเริ่มแก้ปัญหาหนี้ได้แล้ว แต่กระบวนการลดหนี้ที่จะเป็นประโยชน์แท้จริงต่อภาคครัวเรือนโดยรวม จะต้องช่วยลดภาระหนี้ในระดับแต่ละครัวเรือนได้ ผ่าน 2 แนวทาง คือ กระบวนการแก้หนี้เดิม จะต้องออกแบบให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ครัวเรือนที่มีปัญหาหนี้ต่างกัน และกลไกนโยบายเศรษฐกิจมหภาค จะต้องช่วยประคองเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนให้รายได้ครัวเรือนฟื้นตัวได้มากพอจะนำไปชำระหนี้เพื่อหลุดจากปัญหาหนี้ได้อย่างยั่งยืน

แนวทางปลดล็อกครัวเรือนจากปัญหาหนี้ และเอื้อให้เศรษฐกิจไทยยังไปต่อ
(1) กระบวนการแก้ไขหนี้เดิมต้องครอบคลุมและตอบโจทย์ครัวเรือนที่มีปัญหาต่างกัน

การสนับสนุนให้ครัวเรือนจัดการหนี้เดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องมีกระบวนการแก้หนี้เดิมที่ครอบคลุมครัวเรือนที่กำลังมีปัญหาหนี้ให้ได้มากที่สุด ตอบโจทย์ปัญหาหนี้และความต้องการแก้หนี้ที่แตกต่างกันได้

(2) นโยบายเศรษฐกิจมหภาคต้องช่วยสนับสนุนให้รายได้ครัวเรือนฟื้นตัวในอนาคต

การแก้หนี้เดิมของครัวเรือนให้ประสบความสำเร็จ ส่วนหนึ่งต้องอาศัยนโยบายเศรษฐกิจมหภาคช่วยประคองเศรษฐกิจโดยรวม เพื่อสนับสนุนให้รายได้ครัวเรือนฟื้นตัวเพียงพอกับรายจ่าย ด้านนโยบายการคลังไทยเริ่มมีพื้นที่การคลังจำกัดในการกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวม จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการเจาะจงครัวเรือนเปราะบาง ด้านนโยบายการเงินต้องเอื้อให้เกิดการฟื้นตัวของรายได้ครัวเรือน โดยสามารถผ่อนคลายเพิ่มได้ หากจำเป็นต้องลดความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวต่ำลงอีก จนกระทบความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนตามมา

 

“ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทย เป็นหนึ่งในปัญหาเศรษฐกิจที่พูดถึงกันมาก โดยเฉพาะตั้งแต่เกิดวิกฤต COVID-19 สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ของไทยสูงขึ้นเร็วและติดอันดับต้น ๆ ของโลก อย่างไรก็ดี ข้อมูลล่าสุด ณ ไตรมาส 2 ปี 2024 ชี้ว่าสัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยต่อ GDP ลดลงต่อเนื่องจากสิ้นปี 2023 ที่ 91.4% เหลือ 89.6% ต่ำสุดตั้งแต่เกิดวิกฤต COVID-19 จึงเริ่มมีคำถามว่า สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ที่ทยอยปรับลดลง หรือเรียกว่ากระบวนการ Debt deleveraging จะดำเนินต่อเนื่องได้หรือไม่ และสิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยลดความกังวลขึ้นได้แล้วหรือยัง? SCB EIC ต้องการตอบคำถามที่ว่านี้ โดยวิเคราะห์กระบวนการ Debt deleveraging ของไทยในปัจจุบัน และเสนอแนวทางเพิ่มเติมเพื่อให้กระบวนการลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยต่อ GDP เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนได้จริง

 

เศรษฐกิจไทยในวันที่ Debt deleveraging ท้าทายกว่าเดิม

หากย้อนพิจารณาพลวัตหนี้ครัวเรือนไทยต่อ GDP พบว่า กระบวนการ Debt deleveraging เคยเกิดขึ้นมาแล้วอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ปี 2016 แต่มาสะดุดลงในช่วงวิกฤต COVID-19 ในช่วงนี้ครัวเรือนเข้าถึงสินเชื่อได้ตามปกติ ยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนขยายตัวสอดคล้องกับเศรษฐกิจไทยที่เติบโตในอัตราปานกลาง กระบวนการ Debt deleveraging ดำเนินมาต่อเนื่องได้อย่างช้า ๆ ทำให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยต่อ GDP ลดลงจาก ณ สิ้นปี 2015 ที่ 85.9% เหลือ 84.1% ในช่วงก่อนเกิดวิกฤต COVID-19 แต่กระบวนการนี้ต้องหยุดชะงักลงจากการระบาด COVID-19 สัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยต่อ GDP แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 95.5% ณ ไตรมาส 1 ปี 2021

กระบวนการ Debt deleveraging เริ่มเกิดขึ้นใหม่หลังวิกฤตคลี่คลาย สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ลดลงต่อเนื่องเหลือ 89.6% ในไตรมาส 2 ปี 2024 อย่างไรก็ดี สาเหตุที่สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ลดลงจากไตรมาสแรก กลับมาจากยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนที่ลดลงเป็นหลัก ขณะที่ Nominal GDP ยังขยายตัวต่ำ โดยในไตรมาส 2 ยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนขยายตัวเพียง 1.3%YOY ต่ำสุดตั้งแต่เริ่มเผยแพร่ข้อมูลเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนที่รวมกลุ่มสถาบันการเงิน และ Non-bank ในปี 2013

การขยายตัวของหนี้ครัวเรือนในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์อาจดูไม่น่ากังวล หากเกิดจากการทยอยชำระคืนหนี้เดิมที่สอดคล้องกับการฟื้นตัวของรายได้ อย่างไรก็ตาม หากวิเคราะห์ฐานะทางการเงินของครัวเรือน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีหนี้และรายได้น้อย SCB EIC พบว่าภาคครัวเรือนยังมีความเปราะบางสูง โดยข้อมูลจากการสำรวจเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน (SES) ในปี 2023 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ชี้ให้เห็นว่าครัวเรือนไทยที่มีหนี้กำลังเผชิญปัญหาการเงินที่รุนแรงขึ้น สาเหตุหลักมาจาก ครัวเรือนกลุ่มรายได้ต่ำมีรายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย เพราะมีปัญหารายได้ลดลงชัดเจนเทียบกับปี 2021 ขณะที่ครัวเรือนกลุ่มรายได้ปานกลางเริ่มเผชิญปัญหารายได้ไม่เพียงพอรายจ่าย (รวมสำหรับรายจ่ายชำระหนี้) มากขึ้น

นอกจากข้อมูลสำรวจระดับภาคครัวเรือนข้างต้น หากดูข้อมูลฝั่งผู้ให้กู้ก็พบว่า มาตรฐานการให้สินเชื่อครัวเรือนของธนาคารพาณิชย์เข้มงวดขึ้นและอาจเข้มงวดมากขึ้นอีกในระยะข้างหน้า สะท้อนจากผลสำรวจภาวะและแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อ (Credit conditions survey) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ตามคุณภาพสินเชื่อครัวเรือนที่ปรับลดลงต่อเนื่อง ยิ่งแสดงถึงความท้าทายในการเข้าถึงสินเชื่อใหม่

ภาพยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนต่อ Nominal GDP ลดลงที่เห็นจึงอาจเป็นผลจากการอนุมัติสินเชื่อใหม่ลดลงมากกว่าจะเป็นผลจากการชำระคืนหนี้เก่าได้มาก ดังนั้น กระบวนการ Debt deleveraging ที่เห็นในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 อาจกำลังสะท้อนว่า ความสามารถในการเข้าถึงสินเชื่อใหม่ของครัวเรือนแย่ลง แต่ไม่ได้สะท้อนว่าความสามารถชำระหนี้ของครัวเรือนปรับดีขึ้น  

Debt deleveraging ของไทยเหมือนจะคืบหน้า แต่อาจไม่ช่วยปลดล็อกครัวเรือนจากปัญหาหนี้

กระบวนการ Debt deleveraging ของไทยในปัจจุบัน อาจเรียกได้ว่ามีความคืบหน้าในเชิง ปริมาณกล่าวคือ ตัวเลขสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ Nominal GDP ของไทยทยอยปรับลดลงได้แล้ว แต่หากพิจารณาถึงที่มาของการลดลงกลับพบว่า มาจากหนี้ครัวเรือนที่ขยายตัวลดลงมาก กระบวนการที่เห็นนี้จึงอาจไม่ได้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในท้ายที่สุด เราสามารถแยกพิจารณากระบวนการ Debt deleveraging ได้ 2 กรณี ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจในภาพรวมแตกต่างกันมาก

 

กรณี 1 รายได้ในระบบเศรษฐกิจโตมาก หนี้เพิ่มขึ้นช้า หากเศรษฐกิจขยายตัวใกล้เคียงหรือเกินศักยภาพ  รายได้ครัวเรือนจะฟื้นตัว การปล่อยสินเชื่อครัวเรือนจะดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง เพราะครัวเรือนมีแนวโน้มจะสามารถชำระหนี้ได้ในอนาคต กลไกนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่อง โดยหนี้ครัวเรือนที่เติบโตได้บ้าง จะช่วยประคับประคองการบริโภคและการลงทุนของภาคครัวเรือน และทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมขยายตัวได้อย่างยั่งยืน กระบวนการ Debt deleveraging ในกรณีนี้จึงมีความสมดุล ช่วยให้ครัวเรือนสามารถฟื้นฟูฐานะการเงินตนเองได้ และเอื้อให้เศรษฐกิจไปต่อได้อย่างยั่งยืน

 

กรณี 2 รายได้ในระบบเศรษฐกิจโตช้า หนี้ลดลงมาก สะท้อนการลดหนี้ได้ในภาวะเศรษฐกิจเติบโตชะลอตัว หากภาวะเศรษฐกิจซบเซายังดำเนินต่อไปจนทำให้รายได้ครัวเรือนฟื้นตัวช้าต่อเนื่อง สถาบันการเงินมีแนวโน้มจะยิ่งระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อใหม่ให้ภาคครัวเรือน เพราะครัวเรือนบางส่วนยังมีความเสี่ยงสูงที่จะไม่สามารถชำระหนี้ได้ ภาวะสินเชื่อหดตัวนี้จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังการบริโภคและการลงทุนในระบบเศรษฐกิจ และส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโดยรวมในที่สุด ยิ่งทำให้รายได้ครัวเรือนฟื้นตัวลดลงอีก[1] กลไกนี้จะเกิดเป็นวัฏจักรขาลง การแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนในอนาคตจะทำได้ยากขึ้นในกรณี 2 นี้

สถานการณ์ Debt deleveraging ของไทยในปัจจุบันเริ่มคล้ายกรณีที่ 2 กระบวนการลดหนี้เกิดจากการลดลงของสินเชื่อมากกว่าการเติบโตของรายได้ เศรษฐกิจไทยอาจถูกแรงกดดันจากการปล่อยสินเชื่อที่ลดลง และนำไปสู่การชะลอตัวของเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ยังทำให้การปรับโครงสร้างหนี้เก่าเป็นไปได้ยากขึ้น เนื่องจากปัญหาความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนที่ไม่ได้มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างชัดเจน กระบวนการ Debt deleveraging ที่เกิดขึ้นจึงอาจไม่ได้สนับสนุนให้ภาคครัวเรือนมีความแข็งแกร่งได้มากขึ้นเท่าที่ควร

 

การสนับสนุนให้เกิด Debt deleveraging ที่ยั่งยืน และเอื้อให้เศรษฐกิจไทยไปต่อได้แบบกรณีที่ 2 ต้องอาศัย 1) นโยบายแก้ปัญหาหนี้เดิมในระดับครัวเรือน เพื่อลดหนี้ของแต่ละครัวเรือนโดยตรง ช่วยให้มั่นใจว่าแต่ละครัวเรือนมีสัดส่วนหนี้สินต่อรายได้ลดลง ฐานะงบดุลของครัวเรือนปรับดีขึ้น และ 2) นโยบายเศรษฐกิจมหภาคประคับประคองรายได้ เพื่อให้ครัวเรือนมีรายได้ดีขึ้น และเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ ตัดวงจรไหลลงของวัฏจักรหนี้และรายได้ในระบบเศรษฐกิจ

นโยบายแก้ปัญหาหนี้เดิมในระดับครัวเรือน ต้องครอบคลุมและตอบโจทย์

การลดภาระหนี้ระดับครัวเรือนจะช่วยให้ครัวเรือนมีฐานะการเงินมั่นคงขึ้น เพิ่มกำลังซื้อ และสร้างโอกาสให้ครัวเรือนสามารถวางแผนการออมและการลงทุนระยะยาวได้ดีขึ้น การออกแบบมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้เดิมของครัวเรือนควรคำนึงถึง 2 มิติหลัก ได้แก่ “ความครอบคลุม” (Width) และ “ความลึก” (Depth)  

มิติความครอบคลุม (Width) มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้เดิมต้องออกแบบให้ช่วยเหลือครอบคลุมครัวเรือนทุกกลุ่มได้ รวมถึงครัวเรือนในภาคเศรษฐกิจนอกระบบ หรือครัวเรือนที่ไม่มีประวัติเครดิตในระบบ มาตรการที่ครอบคลุม 3 ด้านนี้จะช่วยให้ครัวเรือนทุกระดับสามารถเข้าถึงการช่วยเหลือและคำแนะนำทางการเงินที่จำเป็น

1.       เงื่อนไขโครงการ : ปัจจุบันมีโครงการแก้หนี้ครัวเรือนหลายโครงการ ซึ่งมีเงื่อนไขแตกต่างกัน อาทิ สถานะลูกหนี้เป็นหนี้เสียแล้วหรือไม่ มีปัญหาหนี้อยู่ในระดับใด จึงต้องพิจารณาว่า ยังมีลูกหนี้กลุ่มใดที่ไม่เข้าข่ายได้รับการช่วยเหลือ เพื่อให้ลูกหนี้มีทางเลือกเข้าสู่กระบวนการลดหนี้ได้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ไม่แน่นอน ทำงานนอกระบบ และเข้าไม่ถึงบริการทางการเงินในระบบ การจัดโครงการสนับสนุนพิเศษหรือโครงการรองรับลูกหนี้กลุ่มนี้จะช่วยให้ปัญหาหนี้ไม่ขยายวงมากขึ้น

2.     ประเภทเจ้าหนี้ : การแก้ไขปัญหาหนี้จะต้องครอบคลุมเจ้าหนี้หลากหลายประเภทให้สอดคล้องกับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนไทย ซึ่งไม่ได้มีแค่หนี้กับสถาบันการเงินเท่านั้น ควรขยายขอบเขตไปถึงเจ้าหนี้อื่น ๆ โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ การรวมเจ้าหนี้นอกระบบเข้ามาในระบบหรือจัดหาทางเลือกให้ผู้กู้หนี้นอกระบบเข้าถึงการปรับโครงสร้างหนี้ได้ จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยสูงและลดโอกาสเกิดการทบหนี้ในอนาคต

3.     การรับรู้และการเข้าถึง : ควรสร้างความรับรู้เกี่ยวกับโครงการปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกหนี้เข้าถึงได้ง่าย โดยใช้เครือข่ายทางสังคมและหน่วยงานท้องถิ่น การมีเครือข่ายช่วยดูแลความเป็นอยู่ทางการเงินให้คนในท้องถิ่น จะช่วยให้ลูกหนี้มีความไว้เนื้อเชื่อใจที่จะปรึกษาปัญหาทางการเงิน และสามารถส่งต่อเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือในส่วนกลางได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

มิติความลึก (Depth) การแก้ไขหนี้เดิมของครัวเรือนต้องตอบสนองความต้องการหลากหลายและความซับซ้อนของปัญหา ครัวเรือนอาจมีภาระหนี้จากหลายแหล่ง แต่ละประเภทหนี้ต้องการแนวทางการแก้หนี้ที่แตกต่างกัน การพัฒนาทางเลือกของนโยบายแก้หนี้ที่เจาะจงกลุ่มลูกหนี้หลากหลายจึงมีความสำคัญ พิจารณาได้ 3 ด้าน คือ

1.     ความเสี่ยงของลูกหนี้ รายได้ครัวเรือนแต่ละกลุ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวต่างกัน จึงควรมีกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสมกับลักษณะของการฟื้นตัวของรายได้ที่แตกต่างกัน สำหรับครัวเรือนที่มีความเสี่ยงสูงและมีความสามารถชำระหนี้จำกัด ควรมีกลไกภาครัฐเข้ามาแบ่งรับความเสี่ยงเพิ่มเติมบางส่วน เนื่องจากลูกหนี้เหล่านี้มีความเสี่ยงสูงเกินกว่าที่ภาคเอกชนจะสามารถแก้ปัญหาหนี้ให้ได้ในระยะยาว   

2.       ความซับซ้อนของปัญหาหนี้ ครัวเรือนบางกลุ่มอาจมีเจ้าหนี้หลายราย หรือมีหนี้หลายประเภท ทั้งสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล หรือหนี้นอกระบบ ปัญหาหนี้หลายประเภทต้องการการแก้ไขที่ครอบคลุมและยืดหยุ่นในการจัดการความซับซ้อนเฉพาะกรณี นอกจากนี้ หากลูกหนี้มีหนี้กับเจ้าหนี้ภายใต้การกำกับดูแลต่างหน่วยงาน หรือไม่มีการกำกับดูแล จะทำให้ข้อมูลหนี้หลายแหล่งของลูกหนี้ไม่เชื่อมโยงกัน การช่วยเหลืออาจไม่ตรงเป้าหมาย จึงต้องบูรณาการผ่านการเชื่อมโยงข้อมูลที่ครอบคลุมมากขึ้น

3.     ความรู้ความเข้าใจทางการเงิน ลูกหนี้ที่มีความรู้ความเข้าใจด้านการเงินไม่มากต้องการความช่วยเหลือในการตัดสินใจเลือกข้อเสนอแก้หนี้จากเจ้าหนี้หลายราย การมีผู้เชี่ยวชาญเป็นคนกลาง ให้คำปรึกษา และให้ความรู้ทางการเงินจะช่วยให้ลูกหนี้สามารถตัดสินใจแก้หนี้และมีความรู้ทางการเงินดีขึ้น

นโยบายเศรษฐกิจมหภาคช่วยประคับประคองให้ครัวเรือนมีรายได้และแก้หนี้เดิมได้

กระบวนการ Debt deleveraging แก้ปัญหาหนี้เดิมในระดับครัวเรือน จะต้องดำเนินการพร้อมนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ที่จะมาช่วยสนับสนุนให้ภาคครัวเรือนสามารถฟื้นฟูฐานะทางการเงิน (Balance sheet) ได้ ทั้งการสร้างสมดุลรายได้ รายจ่าย และภาระหนี้ ตลอดจนการบริหารกระแสเงินสดและการลงทุนทรัพย์สินอื่น ๆ (รูปที่ 6) เพื่อให้ครัวเรือนสามารถฟื้นตัวทางการเงินได้อย่างยั่งยืน

นโยบายเศรษฐกิจมหภาคจะมีบทบาทฟื้นฟูฐานะการเงินครัวเรือนผ่านหลายช่องทาง โดยในรายงาน IMF กล่าวถึงหลักการในการปรับโครงสร้างหนี้ที่ดี[2] ไว้ว่า นโยบายเศรษฐกิจมหภาคต้องมุ่งรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจเป็นสำคัญเพื่อช่วยไม่ให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ซ้ำหลายครั้ง การออกนโยบายแก้ไขหนี้เดิมเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ จำเป็นต้องอาศัยนโยบายเศรษฐกิจมหภาคเข้าช่วยประคับประคองเศรษฐกิจให้อยู่ในสภาวะพร้อมรองรับการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการ Debt deleveraging เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ นโยบายเศรษฐกิจมหภาคยังมีความสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นว่า ลูกหนี้จะสามารถกลับมาชำระหนี้ได้อีกครั้งในอนาคต ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการปรับโครงสร้างหนี้เดิม นโยบายเศรษฐกิจมหภาคของไทยสามารถสนับสนุนกระบวนการ Deleveraging ได้ดังนี้

นโยบายการคลังเจาะจงกลุ่มเปราะบาง ภายใต้ข้อจำกัดทางการคลัง :

นโยบายการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจมาตั้งแต่ COVID-19 จนเริ่มมีข้อจำกัดทางการคลัง ตั้งแต่ช่วงการระบาด นโยบายการคลังช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจมาโดยตลอด ขนาดการขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP จึงสูงขึ้นมากและอาจเข้าใกล้เพดานหนี้ใหม่ 70% ในระยะปานกลาง การขาดดุลการคลังสูงต่อเนื่อง อาจกระทบเสถียรภาพการคลัง และมีผลเสียต่อเสถียรภาพระบบการเงินตามมาได้ ในปัจจุบันนโยบายการคลังจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่มากเช่นเดิมแล้ว เพราะเริ่มเผชิญข้อจำกัดการคลังมากขึ้น การใช้มาตรการจึงควรเน้นไปที่การช่วยเหลือครัวเรือนที่ประสบปัญหาทางการเงินหรือกลุ่มเปราะบางเป็นหลัก โดยในระยะสั้น การสนับสนุนเงินอุดหนุนสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของครัวเรือนเหล่านี้ จะช่วยลดภาระรายจ่ายที่ครัวเรือนต้องแบกรับ ซึ่งจะทำให้ครัวเรือนมีความสามารถในการจัดการหนี้ได้ดีขึ้น ในระยะยาว การสร้าง Social safety net ให้แก่ครัวเรือนเปราะบางอย่างเป็นระบบจะช่วยสนับสนุนกระบวนการการแก้ไขปัญหาหนี้ได้มาก

นโยบายการเงินที่เหมาะสม จะช่วยสนับสนุน Debt deleveraging :

 

นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงบ้าง จะไม่ได้กระตุ้นการก่อหนี้เหมือนในอดีต หนึ่งในประเด็นสำคัญที่นโยบายการเงินไทยให้ความสำคัญคือระดับอัตราดอกเบี้ยที่เอื้อต่อกระบวนการ Debt deleveraging โดยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำไปอาจกระตุ้นการก่อหนี้ครัวเรือน ทำให้กระบวนการ Debt deleveraging ดำเนินไปได้ไม่ต่อเนื่อง แม้ในช่วงก่อน COVID-19 อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยกระตุ้นให้ครัวเรือนก่อหนี้เพิ่มขึ้น แต่การผ่อนคลายนโยบายการเงินในระยะข้างหน้าท่ามกลางภาวะที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มซบเซา สถาบันการเงินระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ จึงอาจไม่ได้กระตุ้นการก่อหนี้ครัวเรือนดังเช่นในภาวะที่เศรษฐกิจร้อนแรง[3] เห็นได้จากแนวโน้มหนี้ครัวเรือนที่เริ่มโตต่ำกว่าช่วงก่อน COVID-19 และโตต่ำกว่า Trend มาระยะหนึ่งแล้ว (รูปที่ 7) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรฐานการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินที่เข้มงวดขึ้นกว่าอดีตมาก

นอกจากนี้ ผลศึกษาในต่างประเทศพบว่า ในสภาวะที่หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง ครัวเรือนจะมุ่งเป้าไปที่การพยายามชำระหนี้เก่าของตนเองให้ลดลงมามากกว่าที่จะกู้หนี้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ก็ตาม[4] ดังนั้น การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้เพื่อบรรเทาภาระหนี้ของครัวเรือน และประคับประคองเศรษฐกิจในภาพรวมให้เติบโตได้ จึงไม่ได้กระตุ้นการก่อหนี้ซึ่งจะเป็นการฉุดรั้งกระบวนการ Debt deleveraging

ในทางกลับกัน หากนโยบายการเงินตึงตัวเกินไป อาจทำให้กระบวนการลดหนี้ในระดับครัวเรือนทำได้น้อยลง ผลการศึกษาที่แบ่งเศรษฐกิจออกเป็นช่วง Leveraging (การเพิ่มหนี้) และ Deleveraging (การลดหนี้) ยังพบว่า หากนโยบายการเงินตึงตัวในช่วง Deleveraging และเศรษฐกิจมีหนี้สูงจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวมากกว่าและใช้เวลานานกว่าจะฟื้นตัวเมื่อเทียบกับนโยบายตึงตัวในช่วง Leveraging ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตดีและการบริโภคยังคงขยายตัวได้[5]  การใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดในช่วง Deleveraging ยิ่งกดดันให้การลดภาระหนี้ครัวเรือนชะลอตัวลง และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมอย่างยืดเยื้อทำให้การฟื้นตัวของรายได้ครัวเรือนล่าช้า ครัวเรือนหลายครัวเรือนอาจประสบปัญหาทางการเงินมากขึ้น ก่อให้เกิดแรงกดดันการบริโภคและการชำระหนี้ตามมา

นโยบายการเงินไทยในปัจจุบันอาจตึงตัวเกินระดับเป็นกลางต่อเศรษฐกิจได้ หากมองว่าศักยภาพเศรษฐกิจไทยต่ำลงมาก เนื่องจากศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะยาวได้ปรับลดลงอย่างชัดเจน จากการประเมินของ SCB EIC ในปี 2024 พบว่าศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันปรับตัวลดลงเหลือประมาณ 2.7% จากเดิมที่เคยอยู่ที่ 3.4% ในช่วงก่อนวิกฤต COVID-19 อัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลาง (Neutral rate) ที่สอดคล้องกับศักยภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจ และระดับเงินเฟ้อในระยะยาว จึงมีแนวโน้มที่จะปรับลดลงตามศักยภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจ การคงไว้ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับสูงกว่าในอดีต ขณะที่ศักยภาพเศรษฐกิจลดลง (รูปที่ 8) จึงทำให้นโยบายการเงินมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียสถานะของความเป็นกลาง (Neutral stance : ไม่กระตุ้นหรือชะลอเศรษฐกิจ) และเข้าสู่สถานะตึงตัว (Tight monetary policy) ในกรณีนี้ การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจึงเป็นการลดความเสี่ยงที่นโยบายการเงินจะเข้าสู่สถานะตึงตัว

ดังนั้น การชั่งน้ำหนักในการดำเนินนโยบายการเงินจึงควรให้ความสำคัญกับการลดความเสี่ยงที่รายได้ครัวเรือนจะไม่ฟื้นตัวในอนาคต การดำเนินนโยบายการเงินผ่านมุมมองการจัดการความเสี่ยง (Risk management) ของกระบวนการ Debt deleveraging จึงต้องชั่งน้ำหนักความเสี่ยง 2 ประการที่จะทำให้กระบวนการดังกล่าวอาจสะดุดลง (รูปที่ 9) ได้แก่

(1)     ความเสี่ยงจากการก่อหนี้ใหม่จนทำให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ปรับสูงขึ้น นำไปสู่ปัญหาหนี้ครัวเรือนเรื้อรังในระยะยาว

(2)     ความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจนทำให้ GDP เติบโตไม่เร็วพอที่จะทำให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ลดลง ส่งผลให้การแก้ปัญหาหนี้ในปัจจุบันยิ่งท้าทายมากขึ้น

เมื่อพิจารณาถึงบริบทของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันตามที่กล่าวไป จะเห็นได้ว่าความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจมีมากกว่าความเสี่ยงจากการก่อหนี้ใหม่อยู่มาก การดำเนินนโยบายการเงินอย่างเหมาะสมจึงควรให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการฟื้นตัวของรายได้ครัวเรือนในอนาคตผ่านการประคับประคองเศรษฐกิจไทยให้ผ่านช่วงความเสี่ยงสูง การประคับประคองเศรษฐกิจไทยนี้จะเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการสนับสนุนกระบวนการ Debt deleveraging ของภาคครัวเรือน โดยเมื่อครัวเรือนมีรายได้เพิ่มขึ้นและมั่นคงขึ้น ความสามารถในการชำระหนี้และลดภาระหนี้ก็จะเพิ่มขึ้นตามไป ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการลดหนี้เกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืนและลดแรงกดดันต่อเศรษฐกิจโดยรวม

ในท้ายที่สุด กระบวนการ Debt deleveraging ที่จะตอบโจทย์ครัวเรือนและทำให้เศรษฐกิจไทยไปต่อได้อย่างแท้จริงนั้น ต้องมองให้กว้างไปกว่าการลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP หรือการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับครัวเรือน แต่ต้องให้ความสำคัญถึงกระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้ที่ครอบคลุมและตอบสนองความต้องการของครัวเรือนได้ นอกจากนี้ นโยบายเศรษฐกิจมหภาคก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจให้รายได้ครัวเรือนฟื้นตัว เพราะการฟื้นตัวของรายได้ครัวเรือนที่ยั่งยืนจะเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาหนี้ที่อยู่คู่กับเศรษฐกิจไทยมานานประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริงในท้ายที่สุด

 

บทวิเคราะห์โดย... https://www.scbeic.com/th/detail/product/debt-deleveraging-211124

ผู้เขียนบทวิเคราะห์

นนท์ พฤกษ์ศิริ (nond.prueksiri@scb.co.th)

นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส

ดร.ปุณยวัจน์ ศรีสิงห์ (poonyawat.sreesing@scb.co.th)

นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส

ก้องภพ วงศ์แก้ว (kongphop.wongkaew@scb.co.th)

ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่าย กลุ่มงานกลยุทธ์องค์กร

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


MACROECONOMICS RESEARCH

ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ

รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Economic Intelligence Center (EIC)

และรองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานกลยุทธ์องค์กร

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

 

ดร.ฐิติมา ชูเชิด

ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค

ดร.ปุณยวัจน์ ศรีสิงห์

นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส

นนท์ พฤกษ์ศิริ

นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส

วิชาญ กุลาตี

นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส

ณฐพงศ์ ตันติจิรานนท์

นักเศรษฐศาสตร์

ปัณณ์ พัฒนศิริ

นักเศรษฐศาสตร์

ภาวัต แสวงสัตย์

นักเศรษฐศาสตร์



[1] เป็นวงจรที่มีความใกล้เคียงกับแนวคิดตัวเร่งทางการเงิน (Financial accelerator) ตามการศึกษาของ Bernanke, B. S., Gertler, M., & Gilchrist, S. (1999). The Financial Accelerator in a Quantitative Business Cycle Framework. โดยในบริบทของประเทศไทยซึ่งครัวเรือนจำนวนมากเป็นหนี้ที่ไม่ใช้สินทรัพย์ค้ำประกัน อาจมองมูลค่าของสินทรัพย์ค้ำประกันดังกล่าวเป็นคาดการณ์รายได้ครัวเรือนในอนาคตแทนการคาดการณ์ว่ารายได้ครัวเรือนในระยะข้างหน้าไม่ฟื้นตัวอาจเทียบเท่าผลของการที่มูลค่าของสินทรัพย์ลดลง

[2] Laeven, L., & Laryea, T. (2009). Principles of Household Debt Restructuring (IMF Staff Position Note No. SPN/09/15). International Monetary Fund.

[3] สรา ชื่นโชคสันต์ & สุพริศร์ สุวรรณิก (2017) การ deleverage ของหนี้ภาคครัวเรือนไทย และนัยต่อเศรษฐกิจ (FOCUSED AND QUICK (FAQ) Issue No. 123). ธนาคารแห่งประเทศไทย

[4] Mian, A., Rao, K., & Sufi, A. (2013). Household balance sheets, consumption, and the economic slump. The Quarterly Journal of Economics, 128(4), 1687–1726.

[5] Harding, M., & Klein, M. (2019). Monetary Policy and Household Deleveraging: Evidence and Implications. Journal of Macroeconomics, 65, 123–135.

 
 
 
 

 




เศรษฐกิจ/พลังงาน/สิ่งแวดล้อม

Wonderfruit จับมือ Daikin ยกระดับเทศกาลแห่งศิลปะ ดนตรี ธรรมชาติ และความยั่งยืนสู่อนาคต
TCMA ร่วม COP29 ชูความก้าวหน้า ‘สระบุรีแซนด์บ็อกซ์’ เพิ่มโอกาสเข้าถึงเงินทุนสีเขียว เสริมแกร่งแผนไทยสู่เป้าหมาย Net Zero 2050
เปิดกลยุทธฺ์ บ้านปู พาวเวอร์ เชิงรุก 2030 สร้างการเติบโตแข็งแกร่งควบคู่ลดคาร์บอน
เปิดกลยุทธฺ์ บ้านปู พาวเวอร์ เชิงรุก 2030 สร้างการเติบโตแข็งแกร่งควบคู่ลดคาร์บอน
‘Asia International Hemp Expo 2024’ เปิดแพลตฟอร์มขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกัญชง 12 ประเทศ จับมือจัดตั้ง ‘สมาพันธ์กัญชงนานาชาติเอเชีย’ ผลักดันเฮมป์สู่พืชเศรษฐกิจเพื่อความยั่งยืน article
Solis ร่วมกับ Klink ตอกย้ำความสำเร็จครั้งใหม่ ของอนาคตพลังงานแสงอาทิตย์ ในงาน “The Future of Solar Energy 2024”
โซลาร์ ดี ส่ง ‘หุ่นยนต์ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์’ ครั้งแรกในไทย เทคโนโลยี Light Speed ติดตั้งเร็ว 10 เท่า สนับสนุนพลังงานสะอาด ลดต้นทุนการผลิตให้ภาคธุรกิจไทย
บ้านปู เน็กซ์ จับมือ ดูราเพาเวอร์ เดินหน้าโรงงานประกอบแบตเตอรี่ในไทยเต็มรูปแบบ พร้อมรองรับตลาดรถบัสไฟฟ้าและรถบรรทุกไฟฟ้า
ไทยออยล์เผยกลยุทธ์ธุรกิจปี 2568 และเร่งบริหารจัดการโครงการ CFP
ยูโอบี เผยมุมมอง ชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์ส่งผลอย่างไรต่อพอร์ตการลงทุน
ฟังบทวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทย ปี 2568
EGCO Group ประกาศกลยุทธ์ “Triple P” มุ่งสร้างรายได้และกำไรอย่างยั่งยืน ชูสมดุลสร้างความเติบโต ควบคู่ขับเคลื่อนองค์กรคาร์บอนต่ำ
“ดีพร้อม” ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ ส่งเสริมสินค้าแฟชั่นไทย ตามนโยบาย “รมว.เอกนัฏ” ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ เสริมแกร่งศักยภาพผู้ประกอบการสู่ระดับสากล article
EGCO Group ประกาศกลยุทธ์ “Triple P” ชูสมดุลการเติบโต ควบคู่ขับเคลื่อนคาร์บอนต่ำ
บ้านปู ปูทาง “Energy Symphonics” มุ่งสู่ Net Zero ปี 2050 - พร้อมโชว์ยอด Q3
บ้านปู ปูทาง “Energy Symphonics” มุ่งสู่ Net Zero ปี 2050 - พร้อมโชว์ยอด Q3
กระทรวง อว.-TED Fund ประกาศความสำเร็จ! ปี 67 หนุนทุน 232 ล้านบาท ปั้นให้เกิดผู้ประกอบการ SMEs Startup หน้าใหม่ 264 ราย สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ-สังคม พุ่ง 1,000 ล้านบาท article
“พาณิชย์สืบสานเทศกาลลอยกระทง” เปิดรับนักท่องเที่ยวมาลอยกระทง ชม ชอปสินค้า ที่ตลาดต้องชมไม่น้อยกว่า 60 แห่งทั่วประเทศ article
EMMA CLINIC นำเทรนด์ทรงจมูก TEARDROP อ.พญ.วาสิตาหรือคุณหมอกวาง แกะกล่องเทคนิคใหม่ Preservation Rhinoplasty ชี้ฝั่งยุโรปและเอเชียกำลังมาแรง เพื่อตอบโจทย์ปัญหางานแก้จมูก เผยทรงจมูกสไตล์ธรรมชาติ ทรงสโลปตามแบบฉบับของตัวเองยังนิยมต่อเนื่อง article
ดิอาจิโอจับมือกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดฝึกอบรมหลักสูตรบาร์เทนเดอร์ มืออาชีพ ผ่านโครงการ Learning for Life มุ่งยกระดับแรงงานด้านอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อร่วมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทย
YouTrip ฉลองครบรอบ 5 ปี แห่งความสำเร็จ ด้วย 3 แคมเปญสุดพิเศษแบบจึ้ง ๆ รวมกว่า 3 ล้านบาทแทน “คำขอบคุณ” ลูกค้าผู้ใช้บริการ
HENG ประกาศผลงานไตรมาส 3/67 กลับมาทำกำไรสุทธิ 20 ล้านบาท หลังเพิ่มความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อใหม่ ติดตามหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมควบคุมค่าใช้จ่ายการบริหาร ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเพื่อการเกษตรโตทะลุ 5% ภายในปี 2568
SAM จัด Clearance Sale ครั้งใหญ่ส่งท้ายปี ลดกระหน่ำสูงสุดมากกว่า 50% นำทรัพย์ดีทำเลเด่นทั่วประเทศ ทั้งเพื่ออยู่อาศัยและลงทุนกว่า 370 รายการ มูลค่ารวมเกือบ 1,500 ลบ. เปิดประมูล 2 รอบ 22 พ.ย.และ 11 ธ.ค.นี้
ครบรอบ 30 ปี สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA)
ยูโอบี จับมือ โกวาบิ จัดสัมมนาธุรกิจความงามและเวลเนส ต่อยอดแพชชันสู่ความสำเร็จ
ออมสิน ย้ำ! สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 3.5% สำหรับ SMEs และรายย่อย ยื่นกู้ได้ทุกแบงก์ ในโครงการ Soft Loan GSB Boost Up เพื่อการลงทุน และบรรเทาความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัย
ออมสิน เปิดตัว Non-Bank พร้อมให้สินเชื่อ เงินดีดี ตั้งเป้า 4 ปี ปล่อยกู้ 5 แสนราย แอปสินเชื่ออนุมัติเร็ว
“MER” เจ้าของเครื่องสำอางแบรนด์ดัง MERREZCA ยื่นไฟลิ่งขายหุ้น IPO เดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai มุ่งสู่ผู้นำอุตสาหกรรมด้านความสวยงาม
‘บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น’ ได้รับไฟเขียวจากผู้ถือหุ้นออกหุ้นเพิ่มทุนและวอร์แรนท์ เสริมศักยภาพฐานะการเงินรองรับแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ เตรียมลุยธุรกิจ Mega Trend
SCGP แถลงผลดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2567 เดินหน้าผลักดันยอดขาย เพิ่มสัดส่วนบรรจุภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับผู้บริโภค พร้อมกลยุทธ์บริหารต้นทุนต่อเนื่อง
กองรีท LHSC ประกาศราคาเสนอขายสูงสุดของหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมที่ 10.80 บาทต่อหน่วย ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมและประชาชนทั่วไป จองซื้อพร้อมกัน 4-8 พ.ย.นี้ ระดมทุนเพื่อเข้าลงทุนเพิ่มใน 'ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา' ชูประมาณการยีลด์จากเงินปันผลปีแรกสูง
ไทยพาณิชย์คว้าสุดยอดรางวัลทางการตลาด จากเวทีชั้นนำระดับโลก Marketing Excellence Awards 2024 ตอกย้ำกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch
ออมสิน จับ 111 รางวัล มอบโชคลูกค้าบัตรเดบิตแคมเปญฉลอง 111 ปี
“พาณิชย์”ติดตามโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เผย “โลตัส-แม็คโคร” 2,600 สาขา ลดราคากว่า 8,000 รายการ article
ท่องเที่ยว ส่งออก หนุนเศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาส 4 มองโครงการแจกเงินหมื่นช่วยประคองแต่ผลกระตุ้นมีจำกัด
TCMA ชูภาคอุตสาหกรรมเร่งเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสีเขียว เสนอรัฐปลดล็อก ผลักดันลงมือทำร่วมกัน
ธนาคารเอชเอสบีซี จับมือ ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่น เอนยิเนียริ่ง (ประเทศไทย) หนุนการค้ำประกันสีเขียว (Green Guarantee) 2,000 ลบ. ดันโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมไทยและภูมิภาค
ห้องสมุดมารวย ฉลอง 20 ปี เคียงคู่ตลาดทุนไทย พร้อมสร้างองค์ความรู้ด้านการเงินและการลงทุน อย่างยั่งยืน article
ออมสิน ตั้งเป้าสร้าง Social Impact ปีละมากกว่า 15,000 ล้านบาท เริ่มปี 67 เผยทำได้เพราะรัฐบาลปรับเป้าหมายไม่เน้นกำไรสูงสุด พร้อมเชิญชวนเป็นลูกค้าออมสินเพื่อร่วมกันช่วยสังคม
กนง. เริ่มลดดอกเบี้ย และมีแนวโน้มจะลดอีกครั้งภายในไตรมาส 1 ปีหน้า
ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ ออกแคมเปญ “ยกเว้นดอกเบี้ย 3 เดือน” ช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบอุทกภัยปี 67
“KUN” ชำระคืนหุ้นกู้ พร้อมดอกเบี้ย ครบ 200 ลบ. ตามกำหนด ตอกย้ำศักยภาพความแข็งแกร่งทางการเงิน
“เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล (MMM)” ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 64.20 ล้านหุ้น เข้า mai จ่อระดมทุนขยายธุรกิจ ปูทางขึ้นแท่นผู้นำที่ปรึกษาด้านการขายและการตลาดอสังหาฯ แบบครบวงจร
การ์ทเนอร์คาดการณ์ ปี 2568 ยอดการจัดส่ง AI PCs ทั่วโลกจะคิดเป็น 43% ของยอดจัดส่ง PC ทั้งหมด ภายในปี 2569 จะเหลือเพียง Al Laptops เป็นตัวเลือกเดียวของ Laptop ที่จำหน่ายให้กับองค์กรขนาดใหญ่
คณะผู้บริหารเบทาโกร ให้การต้อนรับคณะรัฐมตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เยี่ยมชมกิจการโรงงานแปรรูปไก่พัทลุง บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด จ.พัทลุง
‘LHSC’ รุกลงทุนครั้งใหม่ใน ‘โครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา’ หนุนประมาณการอัตราจ่ายประโยชน์ตอบแทนหลังลงทุนเพิ่มเติมในปีแรกสูงที่ประมาณ 9.5% เปิดให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมและประชาชนทั่วไป จองซื้อ 4-8 พ.ย.นี้
ก.แรงงานจับมือเขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (EEC) ดันนโยบาย “พิพัฒน์” ลดอุบัติเหตุในที่ทำงาน ให้แรงงานปลอดภัยกว่า 2.6 ล้านคน
ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบรางวัล EIA Monitoring Awards 2024 article
เปิดตำราลับความมั่งคั่ง: สำรวจกลยุทธ์การเงินชั้นเซียนของผู้มีกำลังซื้อสูง ผลการศึกษาของมาสเตอร์การ์ดเผยว่าผู้ที่มีกำลังซื้อสูงมีพฤติกรรมในการบริหารการใช้เงินของตนอย่างชาญฉลาดเพื่อชีวิตที่ดีและส่งต่อเป็นมรดก
“ELLE” ผนึก “ICONSIAM” พร้อมพันธมิตร จัดงาน “ELLE Fashion Week 2024” ผลักดันศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นประเทศไทย ก้าวสู่ระดับสากล สร้างโอกาสแบรนด์ไทยอวดฝีมือบนรันเวย์แลนด์มาร์กริมเจ้าพระยา
บบส.อารีย์ รับโอนหนี้ ออมสิน กว่า 130,000 บัญชี พร้อมเดินหน้าเร่งเจรจาลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้
“ELLE” ผนึก “ICONSIAM” พร้อมพันธมิตร จัดงาน “ELLE Fashion Week 2024” ผลักดันศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นประเทศไทย ก้าวสู่ระดับสากล สร้างโอกาสแบรนด์ไทยอวดฝีมือบนรันเวย์แลนด์มาร์กริมเจ้าพระยา
สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย ไตรมาส 3 ปี 2567
‘กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง’ หรือ ‘VAYU1’ นำหน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินหน้าสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาวให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน ชูผลตอบแทนขั้นต่ำ 3.0% ต่อปี และขั้นสูงไม่เกิน 9.0% ต่อปี คงที่ตลอด 10 ปี
‘สมาคมนักวางแผนการเงินไทย’ (TFPA) หนุนคนไทยออมก่อนใช้เพื่อการเกษียณ จัดเวิร์กช็อป 3 กลุ่มอาชีพ ฝึกวางแผนการเงินกับนักวางแผนการเงิน CFP®
ยูโอบี เปิดตัว UOB Money Lock ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยใหม่ เพื่อป้องกันการโอนเงินออกผ่านออนไลน์ ลดความเสี่ยงจากมิจฉาชีพ
DITP ขับเคลื่อนกลยุทธ์ยุคใหม่ ในบทบาทเส้นทางยกระดับสู่ตลาดโลก (Pathway To Global Market)
พาณิชย์จัดให้ ลดราคาสินค้า เทศกาลกินเจ อิ่มบุญราคาประหยัด คาดช่วยลดค่าครองชีพ 750 ล้านบาท article
พาณิชย์จัดให้ ลดราคาสินค้า เทศกาลกินเจ อิ่มบุญราคาประหยัด คาดช่วยลดค่าครองชีพ 750 ล้านบาท
ออมสิน ช่วยลูกหนี้รับมือน้ำท่วมซ้ำเติมอีกระลอก ให้ขยายเวลาพักหนี้ออโต้จาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน เพิ่มชื่อผู้ได้รับสิทธิ์พักหนี้เป็น 140,000 บัญชี หลังรัฐประกาศพื้นที่ประสบภัยล่าสุด 5,515 หมู่บ้าน
ทุกภาคส่วนผนึกกำลัง ยื่นรัฐบาล 4 ข้อเสนอ เร่งเปลี่ยนไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ในงาน ESG Symposium 2024
สมาคมประชาสัมพันธ์ไทย นำเสนอแนวทางรับมือ กรณีจีนรุกคืบนำแฟลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซบุกตลาดออนไลน์ไทย
วว. พัฒนาการเพาะเลี้ยงสาหร่ายเพื่อดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม
Sea (ประเทศไทย) เดินหน้าสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินเยาวชนไทย ต่อยอดบอร์ดเกมการเงิน “Wishlist จัดสรรเงิน เติมความฝัน” สู่การแข่งขัน “Wishlist Thailand Tournament 2024” ครั้งแรก
เคล็ด (ไม่) ลับ จัดการภาษีทรัพย์สินกงสี เพื่อรักษาความมั่งคั่ง สร้างความเติบโต และส่งต่อได้อย่างยั่งยืน
ออมสิน ขานรับนโยบายรัฐช่วยลูกหนี้ประสบภัยน้ำท่วม ประกาศพักหนี้อัตโนมัติ 3 เดือน ให้พักชำระเงินต้น ไม่คิดดอกเบี้ย จำนวนกว่า 110,000 บัญชี งวด ต.ค.-ธ.ค. 67
DITP ขับเคลื่อนกลยุทธ์ยุคใหม่ ในบทบาทเส้นทางยกระดับสู่ตลาดโลก (Pathway To Global Market)
ทุกภาคส่วนผนึกกำลังยื่น 4 ข้อหลัก เสนอรัฐบาลเร่งเปลี่ยนไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
Highlight ESG Symposium 2024
กระทรวงดีอี – ดีป้า เปิดฉากมหกรรมการแข่งขันโดรนเกษตรครั้งประวัติศาสตร์ Thailand Agriculture Drone Competition 2024 รอบคัดเลือกระดับภูมิภาค ประเดิมพื้นที่ภาคใต้ หาสุดยอดทีมเข้าร่วมแข่งขันรอบชิงแชมป์ประเทศไทย พ.ย.นี้
ทีทีบี ร่วมส่งกำลังใจผ่านถุงยังชีพ “แพ็คส่งยิ้ม” เพื่อช่วยผู้ประสบอุทกภัย พร้อมส่งต่อความหวังและรอยยิ้ม จับมือเคียงข้างก้าวผ่านวิกฤตไปพร้อมกัน
สกสว. – สภาอุตฯ ยกระดับการสกัดอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย ระดมกำลังภาคอุตฯ วิจัย ธุรกิจ ดันการแข่งขันสมุนไพรไทยออกสู่ตลาดโลก
ออมสิน น้อมรำลึกเนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย
4 พาร์ทเนอร์ จับมือสนับสนุนโครงการ Hidden Gem ชู 5 Must Do in Thailand ดันท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจไทย
“Experience the Japanese Fresh Fruits and Vegetables Fair มุ่งส่งเสริมการส่งออกผลไม้ของญี่ปุ่นและทำให้เครื่องหมายผลไม้ญี่ปุ่นเป็นที่จดจำมากขึ้น โดยจะจัดขึ้นที่ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ 5 สาขา
กลับมาอีกครั้ง! กับสุดยอดงานแสดงสินค้าจีน - อาเซียน (ประเทศไทย) ครั้งที่ 11 ยกขบวนสินค้าคุณภาพจากแดนมังกร พร้อมโอกาสทางธุรกิจระดับภูมิภาคส่งตรงถึงไทย ระหว่างวันที่ 18 – 20 กันยายนนี้ ณ ฮอลล์ 98 ไบเทค บางนา article
"Pattani River Festival 2024" ประสบความสำเร็จ กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวชุมชนเมือง article
การท่าเรือฯ ยกระดับบริการ เปลี่ยน แกนตี้เครนพลังงานไฟฟ้า สะดวก เร็ว ลดค่าใช้จ่าย มุ่งสร้างมูลค่าด้านโลจิสติกส์ article
สสว. จับมือ สอวช. จัดงาน Green SME Forum 2024 เดินหน้าผลักดันผู้ประกอบการ SME สู่เศรษฐกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน article
กระทรวงพาณิชย์ประกาศความสำเร็จ กับงานคราฟต์ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี "Crafts Bangkok 2024” ผู้เข้าชมงานทะลุเป้ากว่า 35,000 คน เม็ดเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาท
“พาณิชย์” Kick off ช่วยเกษตรกรไทยผู้ปลูกมังคุด กรมการค้าภายใน จับมือ 4 ปั๊มใหญ่ ซื้อมังคุดกว่า1,000 ตัน แจกสมนาคุณผู้เติมน้ำมัน article
งานสัมมนา “ดอกเบี้ยลด…ช่วยฟื้นเศรษฐกิจ อสังหาฯ - ตลาดทุน…?” เนื่องในโอกาสครบรอบ 5 ปี ก้าวสู่ปีที่ 6 สำนักข่าว Full Max
“ดีพร้อม” อัปสกิลบุคลากรดีพร้อม เตรียมขยายการให้บริการศูนย์ Thai-IDC หนุนซอฟพาวเวอร์ไทย เดินหน้าผลิตนักออกแบบ เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ article
“ภูมิธรรม” ควง “นภินทร สุชาติ” โชว์ผลสำเร็จพาณิชย์จับมือทุกภาคส่วน ดูแลพืชเกษตรหลัก พืชเกษตรรอง ดันราคาพุ่ง สร้างรายได้เกษตรกรไทยเพิ่มเฉียด 2 แสนล้าน article
ถนนสายวัฒนธรรม”บ้านสานใจ พนัสนิคม” เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น อิ่มท้อง สนุก สุขใจในที่เดียว article
“กรมการข้าว - อบก.” เซ็นต์เอ็มโอยู “สยาม ซิลิกา” เพื่อพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกในนาข้าว article
สุดคึกคัก! “Thailand MICE X-Change 2024” งานแรกในไทย รวม Supply Chain ธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าทุกสาขา พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจไทย Q3 – Q4 ให้เติบโต article
รมว.อุตสาหกรรม ลุยขับเคลื่อนทิศทางอุตสาหกรรมสีเขียว ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 7.2 ล้านตันต่อปี article
CEA ขานรับนโยบายรัฐ ยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เปิด “TCDC” แห่งใหม่ นำร่อง 10 จังหวัด เสริมศักยภาพชุมชน พัฒนาทักษะคนรุ่นใหม่ article
“พาณิชย์” ช่วยเหลือเกษตรกร เปิดพื้นกลางกรุงหน้า Central World ขนผลไม้ขายผู้บริโภค นักท่องเที่ยว article
กระทรวงพาณิชย์ดันผู้ค้าข้าวรายเล็กขึ้นผงาดโชว์ศักยภาพข้าวไทย ในงาน THAIFEX - Anuga Asia 2024 article
“ภูมิธรรม”รับลูกนายกฯ ถกทุกภาคส่วนดูแลผลไม้-ผัก-พืช 3 หัว สินค้าอาหาร สร้างสมดุล ดึงเครือข่ายเอกชนรับซื้อ 3.13 แสนตัน ส่งเสริมคนตัวใหญ่ดูแลคนตัวเล็ก ดันผลผลิตราคาดีทั้งปี article
“ภูมิธรรม” สร้างประวัติศาสตร์ เปิดตัวมหกรรมไลฟ์คอมเมิร์ซนานาชาติ จับมือบริษัทอินฟลูฯชั้นนำจีน ยกทัพไลฟ์สดขายสินค้า SME ไทย ก.ค.นี้
ไทยประกาศความพร้อมจัดงานประชุมวิชาการ IEEE International Smart Cities ครั้งที่ 10 ยกระดับเมืองอัจฉริยะ 105 เมืองทั่วไทย
กระทรวงพลังงาน จับมือ “ปตท.- กฟผ.” ยก “ฟิวเจอร์ เอเนอร์ยี่ เอเชีย” & “ฟิวเจอร์ โมบิลิตี้ เอเชีย 2024” ปัจจัยเร่งทรานส์ฟอร์มพลังงานสะอาด ก้าวข้ามความท้าทาย
“พาณิชย์” บุกตลาดเพชรบุรี ตรวจความพร้อมร้านค้าเข้าร่วมดิจิทัลวอลเล็ต ยัน 10,000 บาท เข้ากระเป๋าแน่ปลายปีนี้ article
เจโทรฯ จัดงาน JAPAN PREMIUM HOTATE - From HOKKAIDO Ocean to your Table -ชูความสำเร็จ ดันส่งออกหอยเชลล์โฮตาเตะจากญี่ปุ่นมาไทย โตขึ้นเป็น 2.3 เท่า article
สมาคมการค้า ผู้ผลิตหลังคาเหล็กไทย จัดงานเสวนา “การประกาศ มาตรฐานอุตสาหกรรม มอก.๒๒๒๘-๒๕๖๕” เร่งเครื่อง “Quick Win” สินค้าไม่ได้มาตรฐานและขาดการตรวจสอบ สมาคมการค้า ผู้ผลิตหลังคาเหล็กไทย จัดงานเสวนา “การประกาศ มาตรฐานอุตสาหกรรม มอก.๒๒๒๘-๒๕๖๕ จากปัญหาคุณภาพ article
บีโอไอจับมือพันธมิตร จัดงาน SUBCON Thailand 2024 พร้อมดึง 7 ค่าย EV เข้าร่วม คาดมูลค่าเชื่อมโยงกว่า 2 หมื่นล้าน





ช่องยูทูป INTV Thai


Copyright © 2016 inTV co.,Ltd. All Rights Reserved ติดต่อโฆษณา โทร.081-927-2471 และ 02-733-8791-3