โอเพ่นสเปซ (Openspace) กองทุนชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการยกระดับการเติบโตของสตาร์ทอัพในประเทศไทย พร้อมเผยวิสัยทัศน์ มุ่งผนึกกำลังกับสถาบัน ทั้งภาครัฐ-เอกชน รวมถึงผู้ร่วมลงทุน และ ชุมชนสตาร์ทอัพ เพื่อปลดล็อคศักยภาพไทย เติมเต็มด้านเทคโนโลยีและอีโคซิสเต็มกำลัง
โอเพ่นสเปซ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2557 ปัจจุบันเป็นกองทุนชั้นนำที่บริหารจัดการเงินทุนเกือบ 30,000 ล้านบาท ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุม 6 ตลาดหลัก ได้แก่ ประเทศไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โอเพ่นสเปซ ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้ลงทุนสำคัญในวงการเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพอย่างรวดเร็ว ด้วยการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำมากกว่า 60 แห่งทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา กุญแจสู่ความสำเร็จของ โอเพ่นสเปซ คือ การใช้ข้อมูลเชิงลึกและความเชี่ยวชาญระดับสูงของทีมงานเพื่อเสริมศักยภาพให้แก่บริษัทที่ได้เข้าลงทุนได้สร้างผลงานที่โดดเด่นพร้อมกับสร้างประโยชน์ให้กับสังคม
โอเพ่นสเปซ ยังได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยและส่งเสริมอีโคซิสเต็มอย่างต่อเนื่อง ความมุ่งมั่นนี้สะท้อนให้เห็นได้จากบทบาทของ คุณณิชาภัทร อาร์ค ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยกองทุน โอเพ่นสเปซ เวนเจอร์ส ซึ่งนอกจากบทบาทในกองทุนแล้ว ยังดำรงตำแหน่งสำคัญอื่นๆ ที่มุ่งส่งเสริมการเติบโตของประเทศไทย ได้แก่ บทบาทกรรมการสมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Thai Venture Capital Association), สมาชิกคณะกรรมการของสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin School of Management, Chulalongkorn University) และสมาชิกคณะกรรมการของสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งมหาวิทยาลัยมหิดล (Institute for Technology and Innovation Management, Mahidol University)
คุณณิชาภัทร อาร์ค ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย กองทุนโอเพ่นสเปซ
กล่าวถึงที่มา โอเพ่นสเปซ ว่า ได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2562 ด้วยเงินลงทุนรวมเกือบหนึ่งพันล้านบาท เราภูมิใจในบริษัทสตาร์ทอัพไทยที่เราได้ลงทุนอย่างมาก เนื่องจากมีทีมผู้บริหารที่มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจที่ทำอยู่ในเชิงลึกและสามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างน่าพอใจ กองทุนของเรายังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของสตาร์ทอัพไทย และมองหาโอกาสที่จะเพิ่มเงินลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับจุดแข็งของประเทศไทย เช่น การเงิน การแพทย์ การเกษตร การบริการและการท่องเที่ยว นอกจากนี้ เรายังสนใจสตาร์ทอัพที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับพลังงานทดแทนและการลดโลกร้อน เนื่องจากปัญหาใหญ่เช่นนี้จะต้องนำเทคโนโลยีมาแก้ไขถึงจะเห็นผลที่ชัดเจน”
พอร์ตโฟลิโอของ โอเพ่นสเปซ ในประเทศไทยประกอบด้วย ฟินโนมีนา (Finnomena) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการลงทุนดิจิทัลชั้นนำของไทยที่มีสินทรัพย์ ภายใต้การดูแลเกือบ 50,000 ล้านบาท, เฟรชเก็ต (Freshket) ซึ่งจำหน่ายวัตถุดิบด้านอาหารแบบครบวงจรผ่านแพลตฟอร์มที่สะดวกต่อการติดตามในทุกขั้นตอน โดยปัจจุบันได้ให้บริการแก่ธุรกิจร้านอาหารกว่า 20,000 แห่ง และมีอัตราการเติบโตถึง 10 เท่าในระยะเวลาเพียง 4 ปี นอกจากนี้ ยังมี อบาคัส ดิจิทัล (Abacus Digital) ผู้ให้บริการสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชันมันนี่ทันเดอร์ (MoneyThunder) ที่มุ่งเน้นการสร้างโอกาสทางการเงินด้วยเทคโนโลยี AI ให้กับกลุ่มคนที่หลากหลาย โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้เงินกู้นอกระบบ ปัจจุบันมีผู้สนใจสมัครสินเชื่อกับมันนี่ทันเดอร์ สูงถึง 200,000 รายต่อเดือน โดยมียอดดาวน์โหลดแอปแล้วกว่า 20 ล้านครั้ง ยอดปล่อยสินเชื่อเติบโตต่อเนื่อง โดยมี NPL ต่ำกว่าตลาดถึง 3 เท่า อบาคัส ดิจิทัล ได้รับการจัดให้อยู่ใน Forbes Asia 100 to Watch โดยนิตยสาร Forbes เมื่อปีที่แล้ว โดยมีการคัดเลือกสตาร์ทอัพจากผู้สมัครทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 13 ประเทศ
คุณเจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง กลุ่มบริษัท ฟินโน
มีนา กล่าวถึงความร่วมมือกับโอเพ่นสเปซ และการสนับสนุนที่ช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับฟินโนมีนาอย่างต่อเนื่อง ว่า “โอเพ่นสเปซ เวนเจอร์ส ไม่ได้เป็นเพียงแค่นักลงทุน แต่เป็นพันธมิตรที่สำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของ ฟินโนมีนา ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โอเพ่นสเปซ ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของเราอย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับการสร้างแบรนด์ การสร้างกลยุทธ์เพื่อกระจายประเภทสินทรัพย์ และการวางแผนกลยุทธ์การขยายธุรกิจ นอกเหนือจากเงินทุนแล้ว ทีมงานของ โอเพ่นสเปซ ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อความสำเร็จของ ฟินโนมีนา โดยให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์และให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญกับธุรกิจของเราในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสรรหาบุคลากรไปจนถึงการวางกลยุทธ์”
|