|
เต็ดตรา แพ้ค ได้รับรางวัล ‘Resource Efficiency’ หรือ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ จากเวที Sustainable Packaging News Awards 2024 โดยยกย่องนวัตกรรมการคิดค้นชั้นปกป้องทดแทนอะลูมิเนียมที่ผลิตจากเยื่อกระดาษ (paper-based barrier) ซึ่งรางวัลนี้เป็นการยกย่องความก้าวหน้าเชิงนวัตกรรม ในด้านบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนในช่วงปีที่ผ่านมา
นับเป็นครั้งแรกในโลกของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ที่มีการใช้ชั้นปกป้องที่ทำจากเยื่อกระดาษร่วมกับชั้นผสานที่เป็นโพลิเมอร์จากพืช ซึ่งสามารถลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนของบรรจุภัณฑ์แบบปลอดเชื้อ หรือที่เรียกกันว่ากล่องยูเอชที ได้มากถึง 1 ใน 3 โดยยังคงมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารและคุณสมบัติการใช้งานในระดับสูงสุด ความสำเร็จในการลดคาร์บอนนี้ได้รับการตรวจสอบและยืนยันจากองค์กร Carbon Trust1
ในยุคที่ระบบอาหารทั่วโลกต่างเรียกร้องให้ใช้วัสดุหมุนเวียนที่มีการปล่อยคาร์บอนต่ำ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มจึงเริ่มมองหาวัสดุทางเลือกใหม่เพื่อทดแทนชั้นอะลูมิเนียมฟอยล์ที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันอาหารและเครื่องดื่มจากออกซิเจนและแสงสว่าง การใช้ชั้นปกป้องทดแทนที่ผลิตจากเยื่อกระดาษ ทำให้เต็ดตรา แพ้ค สามารถเพิ่มสัดส่วนกระดาษในบรรจุภัณฑ์จากเดิมประมาณ 70% เป็นถึง 80% ซึ่งถือเป็นการช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์ได้อย่างเห็นผล
เมื่อรวมเอาวัสดุที่เป็นชั้นโพลิเมอร์จากพืชและชั้นปกป้องจากเยื่อกระดาษนี้เข้าด้วยกัน จึงสามารถเพิ่มสัดส่วนวัสดุหมุนเวียนที่เป็นทรัพยากรทดแทนได้ในบรรจุภัณฑ์ปลอดเชื้อได้สูงถึง 90%
นายมาร์โค มาร์เคตติ รองประธานฝ่ายบรรจุภัณฑ์ การขาย และโซลูชันการกระจายสินค้าของ เต็ดตรา แพ้ค กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลนี้จาก Sustainable Packaging News ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนานวัตกรรมที่ขับเคลื่อนจากความต้องการของลูกค้า โดยการใช้ศักยภาพของกระดาษซึ่งเป็นวัสดุหมุนเวียนที่ปลูกทดแทนได้ นำกลับมารีไซเคิลได้ และช่วยลดการปล่อยคาร์บอน พร้อมยังคงไว้ถึงความปลอดภัยของอาหาร”
“เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับลูกค้า ซัพพลายเออร์ และพันธมิตรในการปฏิรูประบบอาหาร เพื่อมุ่งสู่อนาคตแบบคาร์บอนต่ำ พร้อมเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงทั้งเรื่องอาหารและสิ่งแวดล้อม”
คุณแพรพร อมรภาณุพันธ์ ผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านบรรจุภัณฑ์ของบริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า “กระดาษไม่ได้เป็นเพียงวัสดุสำหรับบรรจุภัณฑ์ แต่เป็นคำตอบที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในปัจจุบัน และยังช่วยรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคต เราเห็นถึงความกังวลด้านสภาพภูมิอากาศทวีความรุนแรง โดยเรายังคงมุ่งพัฒนาโซลูชันนวัตกรรมที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เช่น ชั้นปกป้องที่ทำจากเยื่อกระดาษ ทั้งนี้ เพื่อร่วมสร้างอนาคตที่มีการปล่อยคาร์บอนต่ำและช่วยสร้างระบบอาหารที่มั่นคง การได้รับรางวัล Resource Efficiency ในครั้งนี้ ย้ำถึงความมุ่งมั่นของเรา ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มปลอดภัย มีรสชาติที่ดี และมีคุณภาพสูงสุด ด้วยโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่เน้นทั้งด้านการใช้งานและความยั่งยืนต่อไป”
|
