
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต เปิดเผยว่า ในปี 2558 ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีเบี้ยประกันภัยรับรวมลดลงร้อยละ 13 มาอยู่ที่ 4.4 หมื่นล้านบาท แต่หากพิจารณาเฉพาะเบี้ยประกันรับปีแรกที่ไม่รวมเบี้ยประเภทชำระครั้งเดียว บริษัทมีเบี้ยประกันรับปีแรกเติบโตถึงร้อยละ 81 จากปีก่อนหน้า ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านการตลาดในการปรับโครงสร้างแบบประกันประเภทต่างๆ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยปีที่ผ่านมาบริษัทให้ความสำคัญกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับช่วงสูงวัย และผู้ต้องการความคุ้มครองด้านสุขภาพมากขึ้นทั้งนี้ ยังสามารถสร้างการเติบโตในช่องทางจำหน่ายสามัญหรือช่องทางตัวแทน โดยมีการเติบโตของเบี้ยประกันรับปีแรกที่น่าพอใจ ด้วยปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน ทั้งการเติบโตจากผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาใหม่ การพัฒนาคุณภาพของตัวแทนประกันชีวิต บริษัทเดินหน้าพัฒนาคุณภาพและศักยภาพของตัวแทนประกันชีวิต ทั้งการสร้างตัวแทนประกันชีวิตคุณภาพดีเด่น รางวัล TNQA และในปี 2558 ตัวแทนประกันชีวิตของกรุงเทพประกันชีวิตที่มีคุณวุฒิ MDRT มีจำนวนถึง 116 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 200%ขณะเดียวกันสามารถยกระดับตัวแทนขึ้นเป็นที่ปรึกษาการเงิน (Financial Advisor) มีจำนวนเกือบ 1,000 คน เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อนหน้า เพื่อให้บริการในการวางแผนการเงินรอบด้านแก่ลูกค้าทั่วประเทศสำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2559 นั้น บริษัทฯ ยังคงสานต่อกลยุทธ์และการดำเนินงานด้วยแคมเปญสื่อสาร “ทุกความเปลี่ยนแปลง มีสิ่งที่ดีเสมอ เมื่อได้วางแผนการเงินอย่างรอบด้าน” ช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์การเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินให้ประชาชน รับมือกับความเปลี่ยนแปลงในทุกช่วงชีวิต ไม่ว่าจะเกิดอะไรไม่คาดคิดขึ้น โดยเน้นการสร้างหลักประกันควบคู่กับสร้างฐานะ รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกันมากขึ้น ร่วมกับพันธมิตรชั้นแนวหน้า อย่างบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด และบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) และมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น รวมถึงการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรและลูกค้า เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งบริษัทได้ตั้งเป้าหมายในการมุ่งสู่ผู้นำการวางแผนการเงิน ตั้งเป้าเบี้ยปีแรก 22,000 ล้านบาท เติบโต 60% โดยมีสินค้าประกันสุขภาพและบำนาญเป็นสินค้าที่บริษัทให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

