
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดพิธีลงนาม MOU ร่วมกับ 17 สถาบันการเงิน โครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย (micro Entrepreneurs) ระยะที่ 2 หนุนพ่อค้า แม่ค้า ตลาดสด แผงลอย เสริมสภาพคล่องธุรกิจ ซึ่งมี 3 ธนาคาร ออมสิน - ทิสโก้ - ไทยเครดิต เพื่อรายย่อย พร้อมปล่อยสินเชื่อ เม.ย.นี้ โดยมี ดร.สมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ ว่า เนื่องจาก SMEs รายย่อยเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเบื้องต้นผู้ประกอบการรายย่อยส่วนมากไม่กล้าที่จะเข้ายื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินจากภาคเอกชน จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงและมีข้อกำหนดต่างๆ มากมายของทางธนาคาร ถ้าผู้ประกอบการไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ก็จะไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
ภาครัฐจึงหนุน SMEs รายย่อย เพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน และขยายกิจการต่อไป รวมถึงการเกิดสตาร์ทอัพใหม่อีกด้วย จึงอยากให้สถาบันการเงินเอกชนเข้าร่วมมือ เพื่อเอื้อให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยด้วยด้านนายนิธิศ มนุญพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันทั่วประเทศมีผู้ประกอบการ SMEs ทั้งหมด 2.7 ล้านราย แต่มีผู้ประกอบการราว 1.5 ล้านรายที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ จึงได้มีการอนุมัติโครงการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อผู้ประกอบการรายย่อย ระยะที่ 2 ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 ในวงเงินค้ำประกัน 13,500 ล้านบาท มีระยะเวลาสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 ธันวาคม 2560 คาดว่าจะสามารถช่วยผู้ประกอบการรายย่อยได้มากถึง 135,000 ราย โดยโครงการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อผู้ประกอบการรายย่อย (Micro Entrepreneurs) ระยะที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว เพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อ และลดปัญหาการกู้เงินนอกระบบทั้งนี้ โครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย ระยะที่ 1 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อสิ้นปี 2558 บสย. อนุมัติค้ำประกันสินเชื่อเต็มวงเงิน 5,000 ล้านบาท ให้กับผู้ประกอบการรายย่อยเป็นจำนวนถึง 49,600 ราย ผ่าน 5 ธนาคาร คือ ธนาคารออมสิน, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน), ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)