‘เบอกาม็อท’ยกเครื่องใหม่
ขยายฐานลูกค้าให้เด็กลง
“เบอกาม็อท” ทุ่ม 30 ล้าน.ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ในรอบ 37 ปี มุ่งขยายฐานลูกค้าสู่คนรุ่นใหม่จากอายุ 40 ปี ลดสู่วัย 25 - 35 ปี พร้อมสร้างการรับรู้แบรนด์ เบอกาม็อท คือ แชมพูทั่วไป ที่ไม่ใช่แชมพูยา ที่ใช้เฉพาะคนมีปัญหาหนังศีรษะและเส้นผม หรือ ผมร่วงเท่านั้น ตั้งเป้าหมายมียอดขาย 120 ล้าน. หรือเติบโต 10% และจะเพิ่มเป็น 500 ล้าน.ภายใน 5 ปี
เบอกาม็อท ถือเป็นแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของคนไทยที่อยู่คู่คนไทยมายาวนานกว่า 37 ปี โดยที่ผ่านมา ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ด้านการเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่มีเส้นผมบางและขาดหลุดร่วง ซึ่งเป็นสูตรที่ทำมาจากสารสกัดธรรมชาติ สามารถตอบโจทย์และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ากลุ่มนี้เป็นอย่างดี จึงทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำได้
ด้วยความยาวนานของแบรนด์ “เบอกาม็อท” ทำให้ในปี 2560 ได้มีการปรับเปลี่ยนองค์กรครั้งสำคัญ โดยการส่งผ่านการบริหารงานเข้าสู่ทายาทรุ่นที่ 2 โดยมอบหมายให้ นางสาวศิริกาญจน์ บุญกาญจน์ เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด ดูแลด้านการวางกลยุทธ์ทางการตลาด การสร้างภาพลักษณ์ในตัวสินค้า และเพิ่มช่องทางการขายในช่องทางใหม่ๆ และมอบหมายให้ นายกิตติกัญจน์ บุญกาญจน์ รับหน้าที่ผู้จัดการฝ่ายขาย ดูแลงานด้านงานขาย
ศิริกาญจน์ บุญกาญจน์ เข้ามารับช่วงต่อจากผู้เป็นพ่อ ด้วยดีกรีปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี (นานาชาติ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท MSc Strategic Marketing, Imperial College London ส่วน กิตติกัญจน์ บุญกาญจน์ ดีกรีปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ช่วยเหลืออีกแรง
นางสาวศิริกาญจน์ บุญกาญจน์ ในฐานะผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ออดินริค-ไทย จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะและเส้นผม ภายใต้แบรนด์ “เบอกาม็อท” กล่าวว่า คุณวิรัตน์ บุญกาญจน์ (คุณพ่อ) เคยเป็นเซลล์ร้านเสริมสวยที่บริษัทบอเนียว ซึ่งจะคุ้นเคยกับพวกผลิตภัณฑ์ความงาม ประกอบกับที่ทางที่บ้านมีกรรมพันธุ์ผมบาง คุณพ่อเลยกลัว เลยคิดขึ้นมา ว่า ทำไมถึงไม่ค่อยมีผลิตภัณฑ์สำหรับผมร่วงออกมาขาย ที่มีอยู่ก็มีแค่เป็นของนำเข้าไม่กี่ตัว ลองใช้แล้วก็ไม่ค่อยได้ผล เลยมองเห็นโอกาสตรงนี้ แล้วไปปรึกษากับเพื่อนที่เป็นนักเคมี ว่า จะสามารถผลิตสินค้าสำหรับปัญหานี้มาได้หรือไม่ โดยที่นำเอามะกรูดซึ่งคนไทยใช้สระผมมาเป็นส่วนผสมด้วย ก็เลยช่วยๆ กันพัฒนาผลิตภัณฑ์มาเรื่อยๆ โดยที่คุณพ่อมีความตั้งใจว่า อยากจะ offer สิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค โดยเน้นคุณภาพของสินค้าและการใช้เห็นผลจริงเป็นหลัก
หลังจากที่เข้ามาช่วยงานคุณพ่อเต็มตัว ผลงานชิ้นโบว์แดง คือ การทุ่มงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท ในการยกระดับภาพลักษณ์สินค้า และขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ โดยการปรับภาพลักษณ์สินค้าในครั้งนี้ มีทั้งการปรับ Logo และการ Re Packaging ใหม่ให้ทันสมัยขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือ กลุ่ม First Jobber ที่ใส่ใจในการเลือกซื้อสินค้า คำนึงถึงคุณภาพ และ ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติมากขึ้น รวมทั้งการสร้างภาพลักษณ์ให้เบอกาม็อท เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย
สำหรับการปรับบรรจุภัณฑ์ในครั้งนี้ เพราะเชื่อมั่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นพระเอกของแบรนด์ จึงทำการปรับรูปลักษณ์ใหม่ ภายใต้ชื่อ Collection “The Original Hair Fall Solution” แบบฉบับผลิตภัณฑ์ที่ลดและป้องกันผมขาดหลุดร่วง ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์แชมพู 2 สูตร ได้แก่ 1. Bergamot Delicate Shampoo สำหรับผมธรรมดา-ผมแห้ง 2. Bergamot Extra Delicate Shampoo สำหรับผมธรรมดา-ผมมัน และผลิตภัณฑ์ Hair Tonic อีก 2 สูตร ได้แก่ 1. Bergamot Hair Tonic สำหรับผมธรรมดา-ผมแห้ง 2. Bergamot Extra Hair Tonic สำหรับผมธรรมดา-ผมมัน ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าแต่ละผลิตภัณฑ์แชมพูและแฮร์โทนิคของเบอกาม็อท จะแบ่งออกเป็น 2 สูตร ให้เหมาะกับสภาพหนังศีรษะและเส้นผม เพื่อการดูแลที่ล้ำลึกและก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อทุกสภาพผมของผู้บริโภค
“ที่ผ่านมาผู้บริโภคมักจะมองว่า เบอกาม็อท เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้มีปัญหาเรื่องเส้นผมหรือหนังศีรษะ และมองว่าเราเป็นแบรนด์สำหรับวัยกลางคนขึ้นไป ซึ่งการปรับภาพลักษณ์ในครั้งนี้ เราได้ขยายตลาดผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Daily use ซึ่งมีทั้งแชมพู ครีมนวดผม และทรีทเม้นท์ ที่จะมาช่วยดูแลหนังศีรษะและเส้นผมอย่างครบวงจร เราอยากให้คนทุกเพศทุกวัยได้หันมาดูแลสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผมให้มีสุขภาพดี เพราะจะทำให้เราสามารถสะท้อนตัวตนของเราออกมาได้อย่างมั่นใจ”
ด้านการขยายช่องทางจัดจำหน่ายนั้น นอกเหนือจากการผลักดันสินค้าเข้าสู่ร้านค้าและโมเดิร์นเทรด โดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัดให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากขึ้นแล้ว ยังมีแผนที่จะรุกเข้าสู่ช่องทางการค้าออนไลน์ ภายใต้ภาพลักษณ์ใหม่ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้สะดวกและง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่นิยมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ มั่นใจว่าการปรับภาพลักษณ์ใหม่ในครั้งนี้ จะส่งผลให้ภายในสิ้นปีนี้ มียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 10% หรือคิดเป็นรายได้ 120 ล้านบาท และภายในปีหน้าเมื่อผลิตภัณฑ์ภายใต้ภาพลักษณ์ใหม่ออกสู่ตลาดครบทุกไลน์สินค้าแล้ว และการเปิดขายผ่านระบบออนไลน์ ได้ดำเนินการอย่างเต็มระบบแล้ว จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 20%และคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มเป็น 500 ล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า
นางสาวศิริกาญจน์ ยังได้กล่าวถึงภาพรวมของการแข่งขันในตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมว่า แม้จะมีการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่องจากแบรนด์ต่างๆ รวมทั้งการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ของบุคคลที่มีชื่อเสียง แต่บริษัทมีความมั่นใจว่า ด้วยคุณภาพและจุดแข็งในการใช้สารสกัดธรรมชาติของผลิตภัณฑ์ เบอกาม็อท ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 37 ปี จะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า ผลิตภัณฑ์เบอกาม็อท ยังสามารถครองใจผู้ใช้ได้อย่างเหนียวแน่นมาจนทุกวันนี้