‘เอไอเอ’ปั้นที่ปรึกษาการเงินฯ
ดันตัวแทนฟูลไทม์เข้าพอร์ตหมื่นคน/ปี
"เอไอเอ ประเทศไทย" ทุ่มงบกว่า 100 ล้าน.เดินหน้าปั้นที่ปรึกษาด้านการประกันชีวิตและการเงิน “Financial Advisor” หนุนพอร์ตตัวแทนเต็มเวลาเพิ่มหลักหมื่นคนต่อปี โหมเปิดศูนย์ที่ปรึกษาการเงิน (AIA FA Center) 15 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ ภายในต้นปี 2561 ช่วง 8 เดือนมีเบี้ยประกันชีวิตรับรวม 78,306ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มเพิ่มขึ้น 5%
มร.ตัน ฮาค เลห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนไทยมีความคุ้มครองด้านประกันชีวิตในสัดส่วนที่ 40% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งสาเหตุหลักมาจากคนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประกันชีวิต รวมทั้งยังเข้าไม่ถึงการทำประกันชีวิตและการวางแผนทางการเงินที่เหมาะสม
“บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว และลงทุนในการพัฒนาและสร้างตัวแทนประกันชีวิตให้ก้าวสู่การเป็นที่ปรึกษาด้านการประกันชีวิตและการเงินหรือ AIA Financial Advisor (AIA FA) ซึ่งเป็นมากกว่าตัวแทนที่เสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเพียงอย่างเดียว โดยสามารถให้คำปรึกษาและวางแผนทางการเงินให้กับลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ ตลอดจนสามารถตอบสนองความจำเป็นและความต้องการด้านประกันชีวิตและการเงินของลูกค้าได้อย่างแท้จริง และยังเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่สร้างตัวแทนให้ประสบความสำเร็จและเติบโตในสายงานประกันชีวิตกับเอไอเอได้อย่างมั่นคง”นายตัน ฮาค เลห์ กล่าว
ด้านนายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า โครงการFA เป็นโปรแกรมที่ออกแบบขึ้น เพื่อพัฒนาศักยภาพความสามารถของคนรุ่นใหม่ และยกระดับให้เป็นที่ปรึกษาด้านการประกันชีวิตและการเงิน’ หรือ AIA Financial Advisor อย่างมืออาชีพ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ FA Standard กับ FA Prime โดยถือเป็นการรีครูทตัวแทนที่มีประสบการณ์และมีแผนรับรองรายได้ขั้นสูง ซึ่งจะรับเงินเดือนรับรองเดือนละ 30,000 - 100,000 บาท และจะต้องเข้ามาเรียนรู้หลักสูตรของบริษัท 12 เดือน
“ส่วน FA Standard จะรับรองเงินเดือน 10,000 - 30,000 บาท ซึ่งการเข้ามาจะต้องมีการสัมภาษณ์ และจะต้องเข้ามาเทรนและเรียนรู้หลักสูตรของบริษัท 9 เดือน เพื่อปูพื้นฐานและสร้างฐานลูกค้า โดยในปีนี้ เอไอเอ อัดฉีดงบกว่า 100 ล้านบาท ในการสร้างตัวแทนฟูลไทม์ จากปัจจุบันบริษัทมีตัวแทนที่เป็น "AIA Financial Advisor" แล้วเกือบ 7,000 คน หรือคิดเป็นกว่า 13% ของตัวแทนทั้งหมด โดยคาดว่าในอนาคต 3 ปีข้างหน้า จะกลายเป็นช่องทางหลักของ เอไอเอ ในสัดส่วน 50% หรือเฉลี่ยหลักหมื่นต่อปี และสร้างผลผลิตเบี้ยประกันปีแรกเป็นสัดส่วน 50% ของเบี้ยประกันปีแรกของตัวแทนทั้งหมด จากเดิมทำได้อยู่ที่ 20%” นายกฤษณ์ กล่าวและต่อว่า
สำหรับศูนย์ที่ปรึกษาการเงิน (AIA FA Center) ในปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะเปิดศูนย์ที่ปรึกษาการเงินเพิ่มอีก 9 แห่ง จากเดิมที่เรามีอยู่แล้ว 6 แห่ง ในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น และหาดใหญ่ โดยทำการเปิดศูนย์ AIA FA Center ตามแผนไปแล้วที่ นครปฐม อุบลราชธานี และนครสวรรค์ ซึ่งทาง เอไอเอ อาคารสาทรเหนือ กรุงเทพฯ เป็นแห่งที่ 4 และมีแผนจะเปิดที่อาคารศุภาคาร กรุงเทพฯ ภูเก็ต อยุธยา อุดรธานี และสุราษฎร์ธานี ให้ครบทั้งหมด 9 แห่งภายในเดือนมกราคม ปี 2561 ซึ่งจะทำให้ เอไอเอ มีศูนย์ที่ปรึกษาการเงินรวมทั้งสิ้น 15 แห่งทั่วประเทศ เพื่อตอกย้ำถึงพันธสัญญาที่มุ่งให้คนไทยทุกพื้นที่ทั่วประเทศเข้าถึงความคุ้มครองได้อย่างเหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการ
ปัจจุบันในประเทศไทยช่องทางการขายผ่านตัวแทน ยังคงเป็นช่องทางหลัก โดยมีจำนวนตัวแทนมากที่สุดกว่า 60,000 คน ซึ่ง เอไอเอ ประเทศไทย ได้รับการสนับสนุนที่ดีจาก กลุ่มบริษัทเอไอเอ ทั้งในด้านการพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงการฝึกอบรมความเป็นมืออาชีพให้กับตัวแทน ส่งผลให้ตัวแทนระดับพรีเมียร์มีคุณภาพสูงขึ้น ซึ่งเรามั่นใจว่า จะสามารถให้บริการลูกค้าชาวไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยส่งต่อประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าทั่วประเทศไทยกว่า 5.5 ล้านคนได้
“อย่างไรก็ตาม รายงานตัวเลขจากสมาคมประกันชีวิตไทย เผยผลการดำเนินงานในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค.60) ของบริษัท เอไอเอ มีเบี้ยประกันชีวิตรับรวม 78,306 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่เบี้ยประกันรับปีแรกอยู่ที่ 12,388 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 5% เบี้ยประกันชีวิตจ่ายครั้งเดียวจำนวน 4,302 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% และเบี้ยประกันชีวิตปีต่อไปจำนวน 61,615 ล้านบาท มีอัตราความคงอยู่ 87%”