“ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์” รัฐมนตรี ก.วิทย์ เดินหน้า พัฒนาทักษะ Innovator ให้ แก่เด็กและเยาวชน ตามนโยบาย “วิทย์สร้างคน” ล่าสุด ลงพื้นที่เยี่ยมชมสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม ภายใต้โครงการ “โรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม” (Fabrication Lab หรือ FAB LAB) ที่ วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก ระบุ โครงการดังกล่าว ถือเป็นช่องทางให้เยาวชน ที่มีความสนใจด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ได้รับโอกาสในการศึกษาต่อด้านวิศวกรรม และเทคโนโลยีที่สูงขึ้น อีกทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจในอนาคตให้เด็ก มุ่งเป้าสู่อาชีพนักวิจัยนวัตกรรม และวิศวกร ได้อีกด้วย
ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึง การลงพื้นที่ เพื่อกำหนดการณ์ ประชุมและเยี่ยมชมสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม ภายใต้โครงการ โรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม (Fabrication Lab หรือ FAB LAB) ณ วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก เมื่อช่วงวันที่ 12 พย ที่ผ่านมาว่า การลงพื้นที่ เพื่อเยี่ยมชมโครงการใน นวัตกรรม ที่เด็กๆเยาวชน ได้ช่วยกัน คิดสร้างสรรค์ ในครั้งนี้ถือเป็นประโยชน์ อย่างมาก ซึ่งโครงการโรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม หรือ( FAB LAB) เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้พัฒนาทักษะความเป็น "นวัตกร" ด้วยการจัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์ โดยออกแบบและสร้างชิ้นงานเป็นรูปธรรมได้จริง อีกทั้งยังสามารถใช้เครื่องมือทางวิศวกรรม และเครื่องมือวัดทางวิทยาศาสตร์ นำมาใช้ประโยชน์ได้จริงในโครงการดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าโครงการ โรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม นี้ จะสามารถช่วย พลักดันให้ เด็กเยาวชน เหล่านี้ สามารถเติบโตขึ้นมาเป็น ผู้ประกอบการสร้างสรรค์ธุรกิจรุ่นใหม่ ที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปสู่ THAILAND 4.0 ของรัฐบาลได้ ในอนาคตอันใกล้นี้อย่างมั่นคง และแน่นอน
|
ทั้งนี้ สำหรับสิ่งประดิษฐ์ หรือนวัตกรรม ของนักศึกษา อาชีวศึกษาภาคเหนือ ที่นำมาจัดแสดง ที่ วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลกในครั้งนี้ สามารถแบ่งผลงาน ออกเป็น 12 รายกลุ่มวิทยาลัย ได้ดังนี้ 1. กลุ่มอุปกรณ์เครื่องมือเกี่ยวกับบ้าน, อุปกรณ์จับยึดช่วยติดตั้งบานประตู หน้าต่าง, อุปกรณ์เข้าขอบยางมุ้งลวด, อุปกรณ์ระบบเกี่ยวกับรถ,อุปกรณ์ยกรถจักรยานยนต์ จาก วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก // 2. ระบบช่วยเหลือเปิดกระจกอัตโนมัติเมื่อรถตกน้ำ ,อุปกรณ์ตัดไฟในบ้านขณะน้ำท่วม ,ลูกกลิ้งวัดลายเหล็กดัด, เครื่องมืออุปกรณ์การเกษตร,เครื่องสีข้าวกล้อง จาก วิทยาลัยสารพัดช่างพิษณุโลก// 3. อุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุไม้เท้าค้ำคีบ ,เครื่องแช่อิ่มผลไม้ จาก วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก // 4. เครื่องผสมปุ๋ย , เครื่องควบคุมอุณหภูมิโรงเพาะเห็ด จาก วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุตรดิตถ์ // 5. แปรงทางสี,อุปกรณ์เฉือนเมล็ดข้าวโพด , เครื่องขอดเกล็ดปลา จาก วิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ // 6.เครื่องมืองานครัว ,เครื่องขูดมะพร้าวเส้น จาก วิทยาลัยสารพัดช่างอุตรดิตถ์ //
7. มีดหั่นเครือกล้วย,เครื่องมือทางการแพทย์, ฝาช่วยถอดเข็มฉีดยา จาก วิทยาลัยเทคนิคสองแคว // 8.ระบบจัดการฐานข้อมูลศูนย์ข้อมูลบริการงานซ่อม, เครื่องมือกล Diesign and Construction of the mini CNC Milling Machine, ผลิตภัณฑ์ผ้ากระเป๋าตั้งใจเรียน จาก วิทยาลัยสารพัดช่างสุโขทัย // 9. เครื่องหั่นตะไคร้, ผลิตภัณฑ์อาหาร ขนม, ข้าวพันผักรสพริก จาก วิทยาลัยการอาชีพศรีสัชนาลัย // 10 .ซอสบาร์บีคิวมะเขือเทศ ผสมเสาวรส, กาละแมมะขามจาก วิทยาลัยเทคนิคเพชรบูรณ์// 11.เครื่องมือผลิตสินค้าสำเร็จรูป, เครื่องคลึงมะขามคลุก 3 รส จาก วิทยาลัยการอาชีพชนแดน// 12. รวมถึง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว, สบู่ดอกเกลือ Yesion2 , โลชั่นบำรุงผิว ข้าวทับทิมชุมแพ จาก วิทยาลัยพณิชยการบึงพระพิษณุโลก
|
ดร. สุวิทย์ กล่าวต่อว่า สำหรับนวตกรรมสิ่งประดิษฐ์ ของเด็กๆ จาก โครงการ “โรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม” ตามนโยบาย “วิทย์สร้างคน” เพื่อเดินหน้า พัฒนาทักษะ Innovator ให้ แก่เด็กและเยาวชน สู่ความเป็น นักนวัตกร ในครั้งนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ร่วมมือกับพันธมิตร คือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เพื่อมอบ ให้เป็นมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยง ให้แก่โรงเรียนในเขตจังหวัดภาคเหนือ ซึ่งรวมถึงวิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก ที่ใช้สถานที่ ภายในมหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมขึ้นในครั้งนี้ด้วย โดยมีเป้าหมายส่งเสริมการออกแบบและสร้างต้นแบบที่เกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรม เพื่อการเกษตรที่ยั่งยืน หุ่นยนต์และระบบควบคุมอัตโนมัติ หรือยานยนต์สมัยใหม่ เพื่อตอบสนองอุตสาหกรรม (New S-curve) ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ถือเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยง ให้แก่วิทยาลัยเทคนิค 5 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก วิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ วิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย วิทยาลัยเทคนิคเพชรบูรณ์ และ วิทยาลัยเทคนิคน่าน โดยได้จัดทำแผนงานโรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม เพื่อพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ซึ่งนับเป็นการสร้างพื้นฐานให้เยาวชนให้มีทักษะด้านวิศวกรรม มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถนำความรู้และทักษะมาสร้างสิ่งประดิษฐ์หรือนวัตกรรมได้ อันเป็นการสร้างแรงบันดาลใยสู่อาชีพวิศวกร นักวิจัย และนวัตกร ต่อไปในอนาคต และเพื่อเป็นช่องทางให้เยาวชนที่มีความสนใจด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรม ได้รับโอกาสในการศึกษาต่อด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีที่สูงขึ้น รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะพัฒนาความร่วมมือทางวิชาการร่วมมือในอนาคตระหว่างสถานศึกษาอื่นๆ ต่อไปด้วย
ทั้งนี้เป้าหมายเฉพาะของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ยังคงมุ่งที่จะส่งเสริมทางด้านการออกแบบและสร้างต้นแบบที่เกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรมเพื่อการเกษตรที่ยั่งยืน รวมถึง หุ่นยนต์ และระบบควบคุมอัตโนมัติ หรือยานยนต์สมัยใหม่ต่อไปในอนาคต เพื่อตอบสนองอุตสาหกรรม(New S-curve) ซึ่งจะได้มีการจัดการกิจกรรม การอบรมให้ความรู้ให้แก่ครู อาจารย์ และนักเรียน/นักศึกษา รวมถึงสนับสนุนการจัดตั้งชมรม Maker Club ในสถานศึกษาแต่ละแห่งในอนาตนอันใกล้นี้ อีกด้วย
|