|
บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด หรือ ซีจีเอส (CGS) เป็นเจ้าภาพจัด “การประชุมโกลบอล อลิอันซ์ พาร์ทเนอร์ส 2019 (Global Alliance Partners Conference 2019)” หรือ “GAP Conference 2019” การประชุมระดับนานาชาติของเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างประเทศ ที่รวบรวมองค์กรที่ประกอบธุรกิจทางการเงินทั้งหมด นักลงทุนมืออาชีพ ธุรกิจในท้องถิ่น และนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ทั่วโลก โดยมุ่งเน้นตลาดทุนขนาดกลาง ในวันที่ 30-31 พฤษภาคม 2562 ณ โรงแรมเลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์ กรุงเทพมหานคร พร้อมชูประเด็นผ่านการบรรยายปฐกถาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่กำลังแทรกแซงทุกกลุ่มอุตสาหกรรมและการเกิดภูมิรัฐศาสตร์เศรษฐกิจใหม่ (Thai Economy in Transition: Meeting the Challenges of Disruptive Technologies and New Geo - Political Economy) ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจของโลก ณ ขณะนี้
ดร.วีรพัฒน์ เพชรคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บล. คันทรี่ กรุ๊ป มีความยินดีที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Global Alliance Partners Conference 2019 หรือ GAP Conference 2019 ที่นอกจากจะเป็นการโชว์ศักยภาพของธุรกิจไทยแล้ว ยังถือเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ในช่วงเวลาปัจจุบันที่หลากหลายอุตสาหกรรมในประเทศไทยกำลังเติบโตท่ามกลางความท้าทายในด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจอีกด้วย”
"ซีจีเอสได้เปิดโอกาสให้กับธุรกิจไทยก้าวสู่เวทีโลก ด้วยการเชิญชวนและต้อนรับบริษัทไทยจากหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งเดินทางมาร่วมงานประชุมในครั้งนี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น บริษัทด้านการเงิน พลังงาน สินค้าอุปโภคบริโภค ไปจนถึงผู้ให้บริการด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ (Health&Wellness) ซึ่งช่วยสร้างเครือข่ายเพื่อเชื่อมต่อบริษัทไทยไปยังตลาดโลกผ่านตัวแทนจากสมาชิกของ GAP โดยการจัดประชุมครั้งนี้สอดคล้องกับปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของ บล. คันทรี่ กรุ๊ป ที่มุ่งเน้นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯ กับลูกค้าแบบมืออาชีพ สร้างเครือข่ายขยายความสามารถในการดำเนินงาน เพื่อให้พร้อมที่จะเติบโตไปด้วยกัน ซึ่งการที่ CGS ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายระดับโลกนี้นับเป็นการปูทางสู่ตลาดระดับนานาชาติให้กับลูกค้าของเราอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเรามั่นใจว่าจะสามารถพาธุรกิจของเราและลูกค้าทุกท่านให้เข้าสู่เวทีโลก และสร้างการเติบโตในระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังสร้างโอกาสในการสร้างพันธมิตรให้มากขึ้นที่ช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจมีผลประกอบการที่ดียิ่งขึ้นอย่างยั่งยืนในระยะยาว” ดร.วีรพัฒน์ กล่าว
บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป เป็นสมาชิกของ Global Alliance Partners (GAP) มานับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญของเครือข่ายพันธมิตร ที่ไม่เพียงแต่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้บริษัทฯ และลูกค้า พร้อมก้าวไปสู่ตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาในอนาคต
ดร. วีรพัฒน์ กล่าวเสริมว่า “การเป็นสมาชิกของ GAP ช่วยขยายมุมมองการทำธุรกิจของซีจีเอสและพาเราไปรู้จักกับวิธีการต่างๆ ในการทำธุรกิจ ผ่านการแบ่งปันความรู้อย่างไม่สิ้นสุด ทั้งในเรื่องของการบริหารเงินทุนและกองทุน การซื้อขายหลักทรัพย์ วาณิชธนกิจ ฯลฯ นอกเหนือจากทำหน้าที่กระตุ้นให้เกิดการตกลงซื้อขายและเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจแล้ว GAP ยังเป็นเครือข่ายอันแข็งแกร่งที่จะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ทางธุรกิจในระดับโลกให้กับผู้ที่มีส่วนร่วมทุกท่านให้พร้อมรับมือโลกในอนาคตข้างหน้า รวมถึงยังเปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจร่วมกับบริษัทอื่นๆ ทั่วโลกในเครือข่าย GAP ผ่านการเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้”
มิสเตอร์เบอร์นาร์ด โพลิออต ประธานและกรรมการบริหาร Global Alliance Partners (GAP) กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาจัดงานประชุม GAP Conference ที่กรุงเทพฯ โดยทางเราก็ตั้งตารอที่จะเข้ามามีบทบาทในการขยายโอกาสทางธุรกิจกับบริษัทในประเทศไทยมาโดยตลอด เนื่องจากมองว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจสูง โดยเครือข่าย GAP ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นเครือข่ายระหว่างกลุ่มบุคคลและหน่วยงานที่มีวัตถุประสงค์เดียวกันคือต้องการเปิดรับโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนจากนานาชาติ ซึ่งสมาชิกในเครือข่ายจะประกอบด้วยบริษัทที่ให้บริการทางการเงิน ทั้งธนาคารเพื่อการลงทุน บริษัทซื้อขายหลักทรัพย์ หน่วยงานเพื่อการวิจัย ที่ปรึกษาทางการเงิน รวมถึงบริษัทบริหารเงินทุนและกองทุน ที่อยู่ในตลาดทุนขนาดกลาง โดยเรามุ่งหวังผลักดันธุรกิจของบริษัทต่างๆ ทั่วโลกผ่านบริการและความเชี่ยวชาญของสมาชิกในแต่ละประเทศ ควบคู่ไปกับการเปิดโอกาสทางธุรกิจระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับหุ้นนอกตลาด การระดมทุนทางธุรกิจ การซื้อขายหลักทรัพย์ การบริหารกองทุน การวิจัยระหว่างประเทศ และการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน”
มิสเตอร์เบอร์นาร์ด กล่าวเสริมว่า “การประชุม GAP Conference ซึ่งจัดขึ้นปีละสองครั้ง โดยมีเข้าผู้เข้าร่วมเป็นผู้เชี่ยวชาญและสถาบันการเงินระดับโลก พร้อมด้วยบริษัทชั้นนำมากมาย ซึ่งเปรียบเสมือนประตูสู่โอกาสทางธุรกิจใหม่ที่เชื่อมบริษัทต่างๆ ทั่วโลกให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเราจะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการประสานงานให้พันธมิตรในเครือข่ายสามารถติดต่อและร่วมมือกันได้อย่างราบรื่น”
นอกจากนี้ ภายในการประชุมดังกล่าวยังได้รับเกียรติจาก ดร. ณรงค์ชัย อัครเศรณี ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยท่ามกลางยุคสมัยที่นวัตกรรมทางการเงินพัฒนาขึ้น จนหลายบริษัททั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยต้องพยายามยกระดับความสามารถเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่โลกแห่งดิจิทัล ไปพร้อมๆ กับเผชิญความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งให้เกิดเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ในหัวข้อ “Thai Economy in Transition: Meeting the Challenges of Disruptive Technologies and New Geo-Political Economy” โดยมีใจความสำคัญว่า “เศรษฐกิจของประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากขึ้นในอนาคต จากการเข้ามามีบทบาทมากขึ้นของเทคโนโลยี รวมไปถึงการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจดิจิทัล โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์ทางการค้ากับญี่ปุ่นและจีน และการลงทุนจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ”
ดร. ณรงค์ชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “เนื่องจากเทรนด์โลกาภิวัตน์ถูกขับเคลื่อนด้วยประเทศที่ทรงอำนาจ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน และญี่ปุ่น ดังนั้นบริษัทต่างๆ ในประเทศไทยจึงควรแสวงหาความร่วมมือทางธุรกิจและการลงทุนทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก ด้วยการสร้างความน่าเชื่อถือทางการลงทุนให้กับตัวเองพร้อมนำเอาจุดแข็งของประเทศเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจแบบเปิด ภาคบริการและภาคอุตสาหกรรม รวมไปถึงความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในเอเชียและทั่วโลกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเครือข่ายทางธุรกิจระดับโลกอย่าง GAP นี้ก็นับเป็นเครือข่ายที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถเจาะตลาดเข้าสู่ตลาดต่างประเทศได้ง่ายขึ้น เพราะเครือข่ายดังกล่าวได้ช่วยพาธุรกิจไทยไปรู้จักกับธุรกิจนอกประเทศที่เล็งประเทศไทยเป็นเป้าหมายในการลงทุนและต้องการสร้างฐานธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย นี่จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับบริษัทต่างๆ ในการผลักดันขีดความสามารถในการแข่งขันและยกระดับศักยภาพเพื่อให้มีมุมมองทางธุรกิจที่กว้างยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ร่วมมือกับธุรกิจต่างขาติเพื่อขยายธุรกิจของตัวเอง”
ทอมมี่ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งของ บล. คันทรี่ กรุ๊ป ก็มีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการประชุม GAP ในครั้งนี้ โดยเผยว่า “การร่วมเป็นสมาชิกของ GAP นั้นถือเป็นการช่วยยกระดับสถานะและขยายระดับความสำเร็จในระดับสากล ของ บล. คันทรี่ กรุ๊ป ซึ่งการทำการตลาดโดยมีชื่อ GAP พ่วงท้ายนั้นเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะ GAP เปรียบเสมือนเครื่องหมายที่สะท้อนถึงความสามารถของ บล. คันทรี่ กรุ๊ป ในการช่วยให้ลูกค้าก้าวข้ามความท้าทายทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศได้ เราหวังว่าความยิ่งใหญ่และขีดความสามารถของ บล. คันทรี่ กรุ๊ป จะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต เมื่อเราได้มีโอกาสร่วมงานกับพันธมิตรใหม่ๆ ผ่านเครือข่าย GAP มากขึ้น”
งานประชุม Global Alliance Partners Conference จัดขึ้นในประเทศต่างๆ ทั่วโลกนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 เป็นต้นมา โดยจัดขึ้นเป็นเวลาสองวัน ประกอบด้วยวันแรกที่เป็นการประชุมภายในระหว่างสมาชิกและธุรกิจต่างๆ โดยมีสมาชิกของ GAP ทำหน้าที่ให้ข้อมูลอัปเดตในเรื่องของความเป็นไปของตลาดในแต่ละประเทศ และรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจของแต่ละบริษัท และในวันที่สองจะจัดเป็นฟอรั่มเพื่อการลงทุน โดยมีตัวแทนจากบริษัทต่างๆ มานำเสนอข้อเสนอเกี่ยวกับการลงทุนและโครงการธุรกิจให้ทางเครือข่ายและผู้เข้าร่วมการประชุมได้รับทราบโดยทั่วกัน
Global Alliance Partners หรือ GAP มีสำนักงานอยู่ 66 แห่งในกว่า 22 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบันสมาชิกของ GAP ทั่วโลกสามารถบรรลุการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจมาแล้วกว่า 800 ครั้งใน 27 ประเทศ ครอบคลุมกว่า 50 อุตสาหกรรม รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 88,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งมีการซื้อขายหุ้นมูลค่ารวมกันกว่า 800,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีการจัดการและให้คำปรึกษาแก่กองทุนส่วนบุคคลและสถาบันทั่วโลกแล้วกว่า 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
|
