จากโจทย์ข้างต้นเราได้มีการยกเครื่องระบบอาคารอัจฉริยะ (Building Automation System) ครั้งใหญ่ในปี 2558 โดยมีการพัฒนาระบบความปลอดภัย ระบบป้องกันอัคคีภัย และงาน Building Management System ทุกด้าน ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารไทยพาณิชย์นับเป็นอาคารสำนักงานแห่งแรกของประเทศไทยที่มีการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย และที่สำคัญธนาคารไทยพาณิชย์ได้ศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีเพื่อการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ และพบว่าในบางประเทศได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการรักษาความปลอดภัยหลายอย่างที่ล้ำสมัย แต่การจะรับเอาเทคโนโลยีล้ำสมัยนั้นมาทั้งหมด อาจจะไม่ตอบโจทย์หรือสร้างประโยชน์เหมือนอย่างในต่างประเทศ เพราะต้องทำการศึกษาความเหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานจริงในแต่ละที่ แล้วนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม และจากการเรียนรู้เหล่านั้นทำให้ปัจจุบันธนาคารไทยพาณิชย์ได้พัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยไปสู่รูปแบบบูรณาการที่เชื่อมต่อทุกระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมดให้เชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกัน (Integrated System) ไม่ว่าจะเป็น ระบบ CCTV ระบบเตือนภัยทั้งหมด ระบบ Access Control ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในการทำงานทุกขั้นตอน ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาด้านระบบรักษาความปลอดภัยของธนาคารอย่างก้าวกระโดด
“จากรางวัลที่ได้รับมาจึงเป็นเครื่องการันตีได้ว่า แม้ว่าอาคารไทยพาณิชย์ ปาร์ค พลาซ่า จะผ่านการใช้งานมากว่า 20 ปี แต่เป็นอาคารที่ได้รับการดูแลอย่างครอบคลุมทั้งระบบวิศวกรรมอาคาร การปรับปรุงตัวอาคาร และระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี ก็ทำให้ยืนหยัดในความเป็นเลิศได้อย่างยาวนาน อย่างไรก็ตามธนาคารยังคงตั้งเป้าที่จะปรังปรุงตัวเองอยู่เสมอ ล่าสุดยังได้ทำการศึกษาระบบ Machine Learning และ AI สำหรับใช้ในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งมองว่าจะกลายเป็นเทรนด์สำหรับงานรักษาความปลอดภัยในอนาคต” นายพงษ์สิทธิ์ กล่าว
นายชาญ ศิริรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคารและวิศวกรรม บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในฐานะผู้บริหารจัดการอาคารสำนักงานไทยพาณิชย์ กล่าวเสริมว่า อาคารสำนักงานนั้น มีความสำคัญกับชีวิตของคนทำงานอย่างมาก เพราะหลายๆ คนใช้ชีวิตอยู่ที่ทำงานมากกว่าที่บ้านของตัวเอง ดังนั้นการจะฝากชีวิตไว้กับอาคารสำนักงานที่ใด ความปลอดภัย ย่อมต้องเป็นปัจจัยที่นำมาพิจารณาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะเหตุไม่คาดฝันย่อมเกิดขึ้นได้ทุกวินาที
นอกจากนี้ เทคโนโลยีกับการบริหารอาคารก็เป็นสิ่งที่สำคัญ โลกกำลังหมุนเข้าสู่ยุคของ Internet of Things (IoT) เทคโนโลยีในปัจจุบันได้พลิกบทบาทของระบบวิศวกรรมอาคาร และการบริหารรักษาความปลอดภัยไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง มีการผสานเทคโนโลยี่ต่างๆ เข้ามาช่วยทำให้การระบบวิศวกรรมอาคารและระบบรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพสูง สามารถเก็บข้อมูล ตรวจสอบ วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลต่างๆ โดย Big Data Analytics และมีการแสดงผลผ่าน Central Monitoring Dashboard คัดกรองผู้เข้ามาในอาคาร มีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ช่วยให้ดูแลอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ อาทิเช่น มีระบบ CCTV ที่ครอบคลุมในพื้นที่โดยรอบอาคารและในจุดเสี่ยงสามารถตรวจสอบการทำงานของพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) หรือช่างอาคารทำงานโดยผ่านสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบ QR Code เพื่อยืนยันและรายงานผลการปฏิบัติงานแสดงผลไปยังระบบส่วนกลางแบบเรียลไทม์ ทั้งนี้ ขอยกตัวอย่างล่าสุด ที่พลัสฯ ได้ร่วมกับแสนสิริ นำ IoT เข้ามาพัฒนาสู่ Smart Command Centre ศูนย์สังเกตการณ์อัจฉริยะจากส่วนกลางได้นำเทคโนโลยีที่กล่าวมาข้างต้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในงานบริหารอาคาร เป็นการยกระดับการทำงานรูปแบบ Real Time ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีคุณภาพประกอบการตัดสินใจ รองรับแม้ในช่วงเกิดเหตุวิกฤต ซึ่งเป็นการนำข้อมูลด้านความปลอดภัย Safety devices และระบบวิศวกรรมอาคาร (Building Facilities) โดยทำงานผ่าน IoT Data Platform และรวมถึงการมีทีมผู้เชี่ยวชาญเฝ้าระวัง สั่งการ และประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เราได้นำเทคโนโลยี IoT มาพัฒนาให้สามารถใช้ในการบริหารอาคารได้จริงจังอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถควบคุมและจัดการเหตุไม่พึงประสงค์ได้แบบทันท่วงทีตลอดระยะเวลา 365 วัน / 24 ชั่วโมง ซึ่งในอนาคต Smart Command Centre นี้ สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดใช้เป็นศูนย์สังเกตการณ์อัจฉริยะกับทุกอาคารที่พลัสฯ บริหาร ได้ด้วยเช่นกัน |