Mr. Matt Einarson ผู้บริหารส่วนภูมิภาค จาก Alltech Asia-Pacific ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า
“นักวิทยาศาสตร์ด้าน Nutrigenomics และโภชนศาสตร์สัตว์ประยุกต์จาก Alltech Center ได้กำลังคิดค้นสิ่งใหม่ซึ่งเป็นการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดที่สามารถช่วยให้สัตว์เลี้ยงของเรามีชีวิตที่ยืนยาว มีสุขภาพที่ดีขึ้น และเพื่อให้มีชีวิตที่ดีที่สุด เพราะแท้จริงแล้วสัตว์เลี้ยงนั้นต้องการเพียงแค่โภชนาการที่เหมาะสม การดูแลและการออกกำลังกายรวมถึงการเอาใจใส่ และอย่างที่เราทราบกันดีว่าเทคโนโลยีนั้นไม่สามารถมาแทนที่แมวที่ขดตัวอยู่บนตักของเราได้หรือเป็นเพื่อนเราได้อย่างที่สุนัขเป็น เพียงแต่สามารถทำให้ชีวิตสัตว์เลี้ยงนั้นง่ายขึ้นในหลาย ๆ ด้านตั้งแต่โภชนาการไปจนถึงกล้องอัจฉริยะ”
คุณวิโรจน์ ลิมตราจิตต์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด Pet Lover Centre ประเทศไทย กล่าวว่า
"ประเทศไทยส่วนใหญ่ถูกบังคับให้สร้างธุรกิจการดูแลสัตว์เลี้ยงและเปลี่ยนจาก "คนรักสัตว์เลี้ยง" เป็น "ผู้ปกครองสัตว์เลี้ยง" ตั้งแต่ปี 2019 - 2568 และด้วยการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเมือง การเติบโตของอีคอมเมิร์ซและประชากรผู้สูงอายุที่กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการเร่งภาคสัตว์เลี้ยงให้เฟื่องฟู อย่างไรก็ตามผู้ค้าปลีกจำเป็นต้องพัฒนาจากสินค้าราคากลางเป็นสินค้าพรีเมี่ยมทั้งอาหารและของใช้สัตว์เลี้ยงเพื่อตอบสนองเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่มีกำลังซื้อ และเห็นได้ชัดว่าการสร้างประสบการณ์ของลูกค้านั้นจะมีทั้งในรูปแบบธุรกิจทางออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่ง Pet Lovers Center และ The Pet Safari ได้เปิดทำการในตลาดประเทศไทยมานานกว่า 7 ปี เราเห็นว่าแนวโน้มตลาดการดูแลสัตว์เลี้ยงนั้นยังคงมีการเติบโตที่ดีและมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไปอีก 10 ปี"
Mr. Rik van Westendorp ผู้บริหารสูงสุด จาก Monchou Pet Food ประเทศไทย กล่าวว่า
“อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงโดยรวมในประเทศไทยมีมูลค่า 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561 และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตรา 10-15% ต่อปี ซึ่งอาหารสัตว์เป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงโดยรวมในประเทศไทยและคิดเป็น 45% ของมูลค่าอุตสาหกรรม และในกลุ่มประเทศเอเชียน แบรนด์ระดับพรีเมียมอย่าง Monchou ถือว่าสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกสำคัญของครอบครัวและการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพด้วยส่วนผสมระดับพรีเมี่ยมเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การคัดเกรดทูน่าให้เทียบเท่ากับทูน่าที่คนรับประทาน เป็นต้น และจากข้อมูลของ International Trade Center (ITC) ประเทศไทยที่เป็นผู้ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่อันดับสี่ของโลกโดยมีมูลค่าการส่งออก 35.5 พันล้านบาทในปี 2559 ซึ่งมูลค่าการส่งออกในแง่ของราคาและปริมาณเพิ่มขึ้น 11% ต่อปีตั้งแต่ปี 2554 แม้ว่าญี่ปุ่นจะยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาและอิตาลีก็มีอัตราการเติบโตที่น่าประทับใจอยู่ที่ 15% และ 8% ตามลำดับตั้งแต่ปี 2554 เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เยอะที่สุดในโลก”
สพ.ญ.กฤติกา ชัยสุพัฒนากุล ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ กล่าวว่า
“ในแง่ของการให้บริการของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เราคำนึงถึงความพึงพอใจของลูกค้า เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและเพื่อให้ได้เปรียบในด้านการแข่งขัน ซึ่งพวกเรามุ่งมั่นที่จะอัดฉีดความชำนาญและการเอาใจใส่เข้าสู่ระบบเพื่อสร้างความพึงพอใจและสร้างคุณค่าแก่ลูกค้า นอกจากนี้หนึ่งในความสำคัญอันดับต้น ๆ ของ บริษัท คือการปรับปรุงการเรียนรู้การพัฒนาและความก้าวหน้าในอาชีพของสัตวแพทย์อย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อเป็นโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงแห่งแรกในประเทศไทยที่จัดตั้งโครงการศึกษาต่อต่างประเทศสำหรับสัตวแพทย์ ในทุกปีได้มีการมอบทุนการศึกษาและส่งสัตวแพทย์ไปเพื่อพัฒนาชุดทักษะของพวกเขาและปรับปรุงความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีขั้นสูง”
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน เข้าชมเว็บไซต์เราได้ที่ www.petfair-sea.com
|