การวางผังอาคาร ออกแบบเป็นรูปตัวยู (U) ซึ่งหากมองจากหน้าถนนก็จะเห็นว่าตัวอาคารมีความสง่างาม แต่จุดเด่นเบื้องลึกเบื้องหลังจริงๆ คือ ต้องการให้เกิดความลงตัวในส่วนของ Facilities เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ประโยชน์สูงสุด ทั้งในเรื่องความเป็นส่วนตัวที่ไม่มีใครมองเห็นได้จากภายนอก ขณะเดียวกันเมื่ออยู่ภายในยังให้ความรู้สึก โอ่โถง มีความผ่อนคลายได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้การวางผังเป็น Shape ตัวยู (U) ห้องที่อยู่ทางทิศตะวันตกจะเป็นห้องที่มองเห็น วิวสวยที่สุดในโครงการ ซึ่งจะมองเห็นทั้งสระว่ายน้ำและสวน โดยโครงการฯ ได้ยกระดับสวนชั้น 1 ขึ้นมาอีกระดับ เพื่อให้เชื่อมต่อกับ Facilities ระหว่างชั้น 1 กับชั้น 2 ให้ดูใหญ่และสวยงามขึ้น
การออกแบบภายใน พื้นที่ใช้สอยต้องใช้งานได้ 100% โจทย์ของงานดีไซน์จึงต้องใช้ตำแหน่งเสา ขนาดเสา เรื่องของการวางห้องน้ำ ระยะของเสาที่วางเฟอร์นิเจอร์ได้ สามารถตกแต่งให้สวยงามและใช้เป็นฟังก์ชั่นได้ทั้งหมด ทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in ที่ดูสวยงามและจุได้เยอะ เพื่อประหยัดพื้นที่ ให้การใช้สอยพื้นที่ในทุกตารางนิ้ว เกิดประโยชน์สูงสุด การดีไซน์ฝ้าเพดานทุกห้องที่สูง 2.5 เมตร ซึ่งห้องตัวอย่างถูกจำลองมาจากไซส์จริง ไม่มีการลดขนาดตู้เพื่อให้ห้องกว้างขึ้น เพดานเท่าของจริง เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นภาพจริง หรือถ้าชื่นชอบสไตล์การตกแต่งห้องเหมือนห้องตัวอย่าง ก็สามารถนำไปตกแต่งได้เองจริงๆ การให้ความสำคัญกับรายละเอียดเหล่านี้ นับเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการฯ ขนาดห้องของโครงการฯ มีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ เพื่อตอบสนองทุกๆ ความต้องการของลูกค้า ซึ่งรองรับได้ทั้งกลุ่มคนโสดและกลุ่มที่กำลังสร้างครอบครัว โดยแบ่งเป็น แบบสตูดิโอ (Studio) ขนาดพื้นที่ 24.6 และ 24.8 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.75 ล้านบาท เหมาะสำหรับ คนโสด หรือคนวัยทำงานที่รักความสงบ บนพื้นที่ใช้สอยของห้องที่ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป แต่ตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบายครบครัน แบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 30.4 - 34 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท เหมาะสำหรับคนที่กำลังขยับขยายครอบครัว เริ่มใช้ชีวิตหลังแต่งงาน หรือคนโสดขี้เหงา อยากพาเพื่อนมาแฮงค์เอ้าท์ปาร์ตี้ที่ห้องก็สะดวก พร้อมมุมผ่อนคลาย วิวสวยสบายอารมณ์ และแบบ 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 45 - 51 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้น 3.4 ล้านบาท ห้องขนาดใหญ่สุดของโครงการ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก มีพื้นที่ส่วนกลางเพื่อใช้เป็นห้องนั่งเล่น หรือทำกิจกรรมร่วมกัน ในวันหยุด อาทิ ทำกับข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ฯลฯ รวมถึงมุมวิวสวยที่วันไหนอยากจะฉีกไปปล่อยอารมณ์ชิลล์ๆ ลำพังก็ยังได้
Facilities คือจุดขายที่โดดเด่นของโครงการนี้ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ส่วนกลางได้อย่าง มีความสุขในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเป็น Lobby & Library เปลี่ยนบรรยากาศมาพักผ่อนหย่อนใจไปกับหนังสือเล่มโปรดในห้องล็อบบี้ที่ดีไซน์ความลักซัวรี่ โดดเด่นไม่แพ้ห้องอื่นๆ สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ 20 เมตร Workplace พื้นที่สำหรับการสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ของคนทำงาน Fitness เอาใจคนรักสุขภาพด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายได้มาตรฐานที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ Game Room, Garden, Fiber Optic System, ลิฟต์ 2 ตัว, ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม., ระบบกล้องวงจรปิด CCTV, ระบบคีย์การ์ด, Laundry และ ที่จอดรถ 50% (ประมาณ 69 คัน)
นายวิจาร กล่าวต่อไปอีกว่า “โครงการ โดว์เช่ ลาซาล นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก ภายใต้เป้าหมายบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นพัฒนาโครงการอย่างพิถีพิถัน และมองงานอสังหาฯ คืองานศิลปะชนิดหนึ่งที่ต้องใช้ความใส่ใจและความเข้าใจสูงในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น การเลือกทำเลที่ตั้งดังกล่าว การออกแบบตัวโครงการฯ ที่เน้นวัสดุคุณภาพ การวางผังโครงการฯ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ Facilities ที่ตอบรับกับทุกเจเนอเรชั่น อย่างลงตัว ซึ่งปัจจุบัน โดว์เช่ ลาซาล มียอดขายแล้วกว่า 60% จากเป้ายอดขายของปี 2563 ที่วางไว้ 200 ล้านบาท”
“และเนื่องจากยังอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการตลาดแบบออนไลน์ โดยสามารถส่งรายละเอียดต่างๆ ผ่านช่องทาง Line add เพื่อความสะดวกในการตัดสินใจ ก่อนเข้าชมโครงการจริง นอกจากนี้ ยังมีการคัดกรอง และรองรับมาตรการรัฐ Social Distancing อย่างเคร่งครัด” นายวิจาร กล่าวสรุป
โดว์เช่ ลาซาล (DOLCE LASALLE) บูทีคคอนโดมิเนียม (โลว์ไรซ์) ปัจจุบันสร้างเสร็จสมบูรณ์ 100% พร้อมเข้าอยู่ มีจำนวน 8 ชั้น 1 อาคาร ทั้งหมด 178 ยูนิต ในราคาเริ่มต้นที่ 1.75 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเพียง 75,000 บาทต่อตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์คนวัยทำงานที่มองหาที่อยู่อาศัยที่สามารถให้คำตอบในชีวิตได้ทั้งปัจจุบันและอนาคตอย่างแท้จริง สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dolcecondo.com หรือโทร. 0-2117-3463-4
|