ทั้งนี้ การกำหนดราคาอ้อยในปัจจุบัน คิดจากมาตรฐานอ้อยคุณภาพดีที่มีค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส เป็นฐานในการคำนวณ ดังนั้น หากชาวไร่ที่ส่งอ้อยสดที่มีค่าความหวานสูงเกินกว่า 10 ซี.ซี.เอส ก็จะได้ค่าอ้อยเพิ่มตามค่าความหวานที่เพิ่มขึ้น และเมื่อบวกกับเงินช่วยเหลือค่าอ้อยสดจากเงินส่วนต่าง ก็จะส่งผลให้ราคาอ้อยสดเพิ่มสูงขึ้นซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้ชาวไร่ตัดอ้อยสดเพื่อช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ เห็นควรปรับเปลี่ยนแนวทางการหักเงินอ้อยไฟไหม้ในปัจจุบันที่ให้หักตันอ้อยละ 30 บาท นำไปเก็บรักษาไว้ที่กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เมื่อปิดหีบให้นำเงินมาเฉลี่ยให้ชาวไร่ที่ส่งมอบเฉพาะอ้อยสดเท่านั้น เพื่อเพิ่มผลตอบแทนชาวไร่ที่ส่งมอบผลผลิตที่มีคุณภาพให้แก่โรงงาน ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบเดิมที่นำมาแบ่งให้กับอ้อยสดเพียง 70% และอ้อยไฟไหม้ 30% ทำให้ชาวไร่ยังเผาอ้อยอยู่
“เราควรใช้หลักการชาวไร่อ้อยที่ทำดีควรได้ดีเป็นแนวทางแก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้ ชาวไร่ที่ตั้งใจดูแลผลผลิตและจัดส่งอ้อยมีคุณภาพเข้าหีบต้องมีรายได้จากการเพาะปลูกมากกว่าเผาอ้อย เมื่อชาวไร่เห็นว่าราคาอ้อยสดมีความคุ้มค่ามากกว่าการส่งมอบอ้อยไฟไหม้ ก็เชื่อว่าจะทำให้ลดการเผาอ้อยลงได้” นายสิริวุทธิ์ กล่าว
|