เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ EEC เกิดประสิทธิภาพสูงสุด กรมชลประทานได้ ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางด้านน้ำ และส่งเสริมเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศได้อย่างยั่งยืน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563 ณ สถานีสูบน้ำบ้างวังประดู่ ตำบลสามพี่น้อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี นายสุชาติ เจริญศรี รองอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะประธานคณะทำงานบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออก ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง ระหว่างนายสุริยพล นุชอนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9 และ ผศ.เจริญ ปิยารมย์ ผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้ำคลองวังโตนด จ.จันทบุรี การลงนามบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญคือ สูบผันน้ำส่วนเกินที่ไหลทิ้งทะเลในคลองวังโตนด จังหวัดจันทบุรี มาเก็บในอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง เพื่อสำรองน้ำเฉพาะกิจฤดูฝน ปี 2563
โครงการผันน้ำจากพื้นที่จังหวัดจันทบุรีไปยังแหล่งเก็บกักน้ำจังหวัดระยอง (คลองวังโตนด-อ่างเก็บน้ำประแสร์) เกิดจากแรงผลักดันของ ชุมชนท้องถิ่นที่ต้องการให้พื้นที่มีความมั่นคงด้านน้ำ มีน้ำใช้อย่างเพียงพอ สามารถแบ่งปันน้ำระหว่างจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดระยองได้ จึงขอให้ภาครัฐเร่งผลักดันโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยกันเพิ่มความมั่นคงด้านน้ำ ให้แก่พี่น้องประชาชนได้อย่างทั่วถึง พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ คณะทำงาน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานอนุกรรมการ จึงมอบหมายให้กรมชลประทานวางแผนการพัฒนาและบริหารการจัดสรรน้ำให้เพียงพอต่อทุกภาคส่วนเพื่อรองรับฤดูแล้งปี 2563/64 ตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ประธานกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ
คณะกรรมการลุ่มน้ำคลองวังโตนด จังหวัดจันทบุรียินยอมให้กรมชลประทานสูบผันน้ำส่วนเกินที่ไหลทิ้งทะเลในคลองวังโตนด จังหวัดจันทบุรี จำนวน 320 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) มาเติมอ่างประแสร์ ผ่านคลองพะวาใหญ่ แก่งหางแมว และวังโตนด ในช่วงฤดูฝน (กันยายน-ตุลาคม 2563 )โดยมีเงื่อนไขว่าระดับน้ำในคลองต้องอยู่ที่ ระดับบวก 16 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง(ม.รทก.) หากต่ำกว่าต้องหยุดสูบ และห้ามระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำปะแกต ลงมาอย่างเด็ดขาด ยกเว้นกรณีพร่องน้ำรับฝนที่คาดการณ์จะตกทำให้น้ำล้นอ่างฯเกินควบคุม
การดำเนินโครงการดังกล่าว ส่งผลดีต่อทุกฝ่ายไปพร้อมกันเพราะจังหวัดจันทบุรีสามารถป้องกันอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำวังโตนดอันเกิดจากน้ำส่วนเกินที่จะไหลลงสู่แม่น้ำวังโตนดและลดการสูญเสียน้ำดิบลงสู่ทะเล ทำให้เกิดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรน้ำได้สูงสุด และบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และใกล้เคียง
ด้านจังหวัดระยอง เมื่อผันน้ำส่วนเกินที่ไหลลงสู่แม่น้ำวังโตนด มาเก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำประแสร์ ทำให้มีปริมาณน้ำสำรองเพิ่มขึ้น เพียงพอสำหรับอุปโภคบริโภค การเกษตร อุตสาหกรรม รองรับแผนยุทธศาสตร์โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมทั้งบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำให้เบาบางลง นำความผาสุกและความมีเสถียรภาพมั่นคง ทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจสู่ประชาชนในภาคตะวันออกอย่างยั่งยืน
|