ด้าน ดร.วรพจน์ กันตพิพัฒน์ อุปนายก สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวถึงหลักสูตรการอบรมของสมาคมฯ ว่า “สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ส่งผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลก และได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิต การทำงาน รวมถึงการลงทุนของผู้บริโภคไปอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงเท่านั้นวิถีชีวิตใหม่หรือ New Normal ที่เกิดขึ้นยังได้ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ต้องปรับแผนดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับภาวการณ์ปัจจุบันอย่างเร่งด่วน สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยจึงได้จับมือกับ 13 สมาคมอสังหาฯ ส่วนภูมิภาคจัดการอบรมทั้งหลักสูตรระยะสั้นและระยะยาวขึ้นมา โดยเชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและคร่ำหวอดในวงการอสังหาฯ มาถ่ายทอดประสบการณ์และเทคนิคสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจจนผ่านวิกฤตครั้งนี้ได้”
“หลักสูตรระยะสั้น หัวข้อ “ต่อยอดการพัฒนาอสังหาฯ ...ปรับกลยุทธ์สู้วิกฤตในปี 2021” ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับความรู้จากประสบการณ์ตรงและร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ทรงคุณวุฒิ นำโดย คุณอนันต์ อัศวโภคิน ที่ปรึกษาสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และเหล่าเรียลดีเวลลอปเปอร์จากแบรนด์ชั้นนำของประเทศ เช่น แลนด์แอนด์เฮ้าส์, อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์, แสนสิริ, ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์, เปี่ยมสุข, รุ่งกิจ เรียลเอสเตท เป็นต้น พร้อมเยี่ยมชมโครงการ The Forestias โครงการอสังหาฯ ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยมูลค่าแสนล้านของบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) การอบรมจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 29-31 ตุลาคม 2563 ณ โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยท์ เทอมินอล 21 และ ห้อง Cage ห้างสรรพสินค้า W District โดยหัวข้อการอบรมจะประกอบด้วยภาพรวมและทิศทางอสังหาฯ หลังโควิด, การดีไซน์แบบและราคา เพื่อสนองความต้องการได้อย่างแม่นยำ ภายใต้การสร้างเสร็จก่อนขาย, การเอาตัวรอดในภาวะวิกฤติสำหรับรายกลางและรายเล็ก, กรีน คอมมูนิตี้ แมนเนจเม้นท์ การบริหารชุมชนน่าอยู่ยั่งยืน, แบรนด์สำคัญอย่างไรกับธุรกิจอสังหาฯ และการสร้างวัฒนธรรมในองค์กรและการดูแลลูกค้า โดยหลักสูตรนี้จะเปิดรับลงทะเบียนจำนวนจำกัดเพียง 40 ที่นั่ง”
ดร.วรพจน์ กล่าวต่อว่า “ในส่วนของหลักสูตรระยะยาวใช้ชื่อว่า “TREA ACADEMY” จะมุ่งเน้นการเรียนรู้ด้านการดำเนินธุรกิจอสังหาฯ แบบครบวงจร เพื่อพัฒนาสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจ โดยจะเริ่มตั้งแต่ 6 พฤศจิกายน 2563 จนถึง 6 กุมภาพันธ์ 2564 จัดที่โครงการเกษรวิลเลจ และโรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยท์ เทอมินอล 21 ซึ่งตลอด 3 เดือนนี้ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้เทคนิคและกลยุทธ์การลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ และการวางแผนการเงินและภาษีแบบเจาะลึก การวิเคราะห์ปัญหาและแนวทางแก้ไขด้านต่างๆ ไปจนถึงการทำตลาดและการสร้างแบรนด์ ทั้งยังมีการเวิร์คช้อปแบบเข้มข้นเพื่อนำธุรกิจสู่การระดมทุนกอง Reit หรือในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และการศึกษาดูงานที่โครงการ The Forestias และท่าเรือโอเชี่ยนมารีนา ยอร์ช คลับ รวมถึงโอกาสในการสร้าง Ecosystem ร่วมกับเหล่านักธุรกิจอสังหาฯ ชั้นนำของประเทศไทย โดยจะเปิดรับผู้สนใจเข้าร่วมหลักสูตร 70 คน”
“ทั้งสองหลักสูตรเหมาะกับเจ้าของธุรกิจอสังหาฯ ทุกประเภทที่ต้องการต่อยอดเพื่อการพัฒนาโครงการใหม่ๆ และสร้างผลกำไรจากทรัพย์สินที่มีอยู่ ผู้บริหาร นักธุรกิจ และนักลงทุนด้านอสังหาฯ ที่กำลังมองหาโอกาสก้าวสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจ
รวมไปถึงผู้บริหารจากองค์กรภาคเอกชน ภาครัฐ ธุรกิจการเงินการธนาคาร หรือที่ปรึกษาด้านการลงทุนที่มีความสนใจในองค์ความรู้ด้านอสังหาฯโดยผู้สนใจสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thairealestate.org และ www.treaacademy.com”
นอกจากนี้ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยและเครือข่ายยังได้เปิดช่องทางออนไลน์ ในชื่อ “อสังหาฯ มาร์เก็ต เพลส” เพื่อช่วยสมาชิกผู้ประกอบการอสังหาฯ ในการส่งเสริมและเพิ่มช่องทางการขายสินค้าไปสู่ลูกค้าเป้าหมายได้โดยตรง ทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยคุณภาพทุกประเภท ทุกทำเล ทุกราคา ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งจะเป็นช่องทางที่ช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
นายอดิเรก แสงใสแก้ว เลขาธิการ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า “โควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น จนช่องทางการขายและการตลาดออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว สมาคมฯ และเครือข่ายเล็งเห็นถึงโอกาสในการใช้สื่อออนไลน์ประเภทต่างๆ เพื่อเป็นบริการพิเศษในการสร้างประโยชน์ให้กับทั้งสมาชิกผู้ประกอบการและผู้บริโภคจึงได้จัดทำช่องทางขายออนไลน์ อสังหาฯ มาร์เก็ต เพลส ขึ้น ซึ่งในช่วงเฟสแรกทางสมาคมฯ จะทำการเปิดตัวช่องทางดังกล่าวบนแพลทฟอร์มโซเชียลมีเดีย ได้แก่ เฟสบุ๊ค, ไลน์, อินสตาแกรม และทวิตเตอร์ ก่อนจะขยายแพลทฟอร์มไปบนเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นในเฟสต่อๆ ไป”
“อสังหาฯ มาร์เก็ต เพลส ไม่เพียงแต่จะเป็นบริการพิเศษที่ช่วยในเรื่องการส่งเสริมการขายและการตลาด แต่ยังเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ของสมาคมฯ และเครื่องมือในการเพิ่มสมาชิกใหม่ให้กับสมาคมส่วนภูมิภาคต่างๆ ด้วย โดยสินค้าที่จะนำมาจำหน่ายผ่านช่องทางดังกล่าวจะต้องเป็นสินค้าของสมาชิกสมาคมฯ และ 13 สมาคมส่วนภูมิภาคเท่านั้น และเป็นสินค้าที่อยู่อาศัยเพื่อการขายหรือเช่า เช่น บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ คอมมูนิตี้มอลล์ โรงงาน โรงแรม ซึ่งผ่านการยื่นขออนุญาตจัดสรร ใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดฯ และการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม
เป็นต้น”
นายอดิเรก กล่าวทิ้งท้ายว่า “ในช่วงเปิดตัวนี้ สมาคมฯ เชื่อว่าจะมีผู้ประกอบการสมาชิกจากทั่วประเทศเข้าร่วมมากกว่า 300 บริษัท ทำให้มีโครงการอสังหาฯ ประเภทต่างๆ พร้อมจำหน่ายทาง “อสังหาฯ มาร์เก็ต เพลส” ไม่ต่ำกว่า 1,000 โครงการ สิ่งที่ทำให้ช่องทางทั้ง Online และ Offline ของสมาคมฯ แตกต่างจากเว็บไซต์อีมาร์เก็ตเพลสอื่นก็คือสินค้าอสังหาฯ ทุกรายการเป็นของสมาชิกเครือข่ายสมาคมฯ จึงทำให้ได้รับการตรวจสอบกลั่นกรองมาแล้วว่าได้คุณภาพมีมาตรฐานรับรอง ซึ่งเอกสารหลักฐานจะถูกโพสต์ประกอบกับภาพสินค้าไว้ด้วยเพื่อช่วยสร้างความมั่นใจในตัวสินค้าให้กับลูกค้า ที่สำคัญสินค้าทุกชิ้นจะมาพร้อมกับโปรโมชั่นพิเศษ เรียกได้ว่าเป็นดีลพิเศษที่หาที่ไหนไม่ได้ แม้แต่ในช่องทางจำหน่ายของสมาชิกเอง โดยสมาคมฯ คาดหวังว่า “อสังหาฯ มาร์เก็ต เพลส” จะเป็นตลาดรวมสินค้าที่อยู่อาศัยคุณภาพราคาพิเศษจากทั่วประเทศที่ผู้ซื้อต้องเข้ามาเช็คอินก่อนตัดสินใจซื้อ และดึงดูดให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ในทุกจังหวัดที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ตัดสินใจเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย” เตรียมพบกับสินค้าอสังหาฯ คุณภาพพร้อมกันทั่วประเทศ พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ และของแถมสินค้าชั้นดีจากผู้สนับสนุนชั้นนำ บนช่องทางออนไลน์ “อสังหาฯ มาเก็ตเพลส” ดีเดย์พร้อมกันทั่วประเทศ 11/11/20
|