นางสาวศิริพร ตันทโอภา หรือ ครูน้อย ครูประจำโรงเรียนสอนคนตาบอดในพระราชินูปถัมภ์ จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเสริมว่า “จากที่ตนเองเคยได้ใช้บริการขนส่งจากจุดรับพัสดุ Drop point จึงคิดว่าเด็กนักเรียนของเราสามารถทำได้ หากมีการฝึกฝนที่ดี ดังนั้นการเปิดโครงการ “จุดรับพัสดุเพื่อน้อง” ที่เป็นจุดรับพัสดุ Drop point ที่นอกจากจะเป็นการส่งเสริมอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ให้นักเรียนแล้ว และเมื่อพวกเขาจบการศึกษาไป ก็จะสามารถนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองได้อย่างอิสระและไม่เป็นภาระให้กับใคร นี่คือความฝันทั้งของครูและของเด็กนักเรียนทุกคน ดิฉันจึงอยากขอเชิญชวนให้ทุกท่านเข้ามาใช้บริการเพื่อให้กำลังใจและเพิ่มประสบการณ์ให้แก่น้อง ๆ นักเรียนเหล่านี้ รวมถึงขอขอบคุณ นายประมวล พลอยกมลชุณห์ ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ที่ได้ให้การสนับสนุนโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง”
นางสาวศิรินทิพย์ จริยคุณ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า “โครงการ จุดรับพัสดุเพื่อน้อง ที่จัดตั้งขึ้นครั้งนี้เป็นไปตามแผนงานการตลาดเชิง CSR การช่วยเหลือเพื่อสังคมที่ได้กำหนดไว้ เพราะเราในฐานะผู้ทำธุรกิจด้านการให้บริการ ยิ่งไม่ควรมองข้ามการช่วยเพื่อสังคม เพื่อให้สอดคล้องตามคอนเซ็ปวิถี “BEST Road New Life” (ขนส่งยุคใหม่ไลฟ์สไตล์ New Normal) ที่นอกจากจะมุ่งเน้นการสร้างการรับรู้แบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างแล้ว แต่เราก็ยังมุ่งบูรณาการแผนการตลาดให้สอดคล้องไปกับการช่วยเหลือเพื่อสังคมควบคู่กันไปด้วย และเกิดเป็นแนวคิดของ BEST Express ที่มุ่งเน้นการเติบโตไปพร้อม ๆ กัน เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดียิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ในระหว่างกิจกรรมการจัดตั้งศูนย์ Drop point เพื่อนักเรียนผู้พิการทางสายตาและการได้ยิน ภายใต้โครงการ “จุดรับพัสดุเพื่อน้อง” ทาง BEST Express ยังได้นำ “นมกล่องยูเอชทีและขนมถุง” มาบริจาคปันสุขเพื่อน้องเป็นจำนวนมาก เพื่อให้น้อง ๆ นักเรียนได้ดื่มนมเพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีความสุขกับการรับประทานขนมตลอดช่วงพักกลางวันตลอดการศึกษาในโรงเรียนแห่งนี้
|