ทุ่มทุนขยายขนาดเตาเพิ่มผลผลิต และรุกสร้างพันธมิตรรายใหม่
สำหรับแนวโน้มตลาดและแผนลงทุนครึ่งปีหลังนั้น เลิศพงษ์ กล่าวว่า สตีล ซิตี้ มองหาช่องทางและโอกาสในการเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าและสร้างพันธมิตรในด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาสินค้าใหม่ๆในอุตสาหกรรมเหล็ก โดยให้ความสนใจในงานสถาปัตยกรรม ที่เลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เน้นเรื่องความสวยงาม และคงทน ในอนาคตมุ่งพัฒนาผลิตเฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้ในบ้านที่ทำจากเหล็กที่ผลิตจากโรงงานของสตีล ซิตี้ ได้อย่างครบวงจร
เลิศพงษ์ ยังได้กล่าวถึงการลงทุนซื้อเครื่องจักรทันสมัยเพื่อช่วยเพิ่มกำลังผลิต บริษัทมีโรงหลอมโรงฉีดและเครื่องจักรออโต้ที่มีความแม่นยำสูง ช่วยผลผลิตเพิ่มขึ้นหลายเท่าและมีความต่อเนื่องสัมพันธ์กันเป็นลูกโซ่ และในปีนี้มีแผนที่จะเพิ่มขนาดเตาให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับปริมาณความต้องการของตลาดที่มากขึ้น ซึ่งหากดูจากปริมาณการสั่งซื้อในแต่ละปีนั้น สินค้าประเภทนี้มีการเติบโตอยู่เรื่อยๆ ทุกปี เนื่องจากการลงทุนก่อสร้างในโครงการต่างๆ ภายในประเทศมีเพิ่มขึ้นและต่อเนื่อง
“ในอนาคต สตีล ซิตี้ จะเป็นผู้ผลิตงานเหล็กหลอม งานฉีด ออกแบบพิมพ์ ที่สามารถทำงานได้หลากหลายประเภท และเปลี่ยนวัสดุที่เป็นเหล็กเป็นสินค้าแปรรูปอื่นๆ ที่สามารถนำไปใช้ร่วมในชีวิตประจำวันของกลุ่มคนทั่วไปได้ ดังนั้น จึงมีการลงทุนในเครื่องจักรและเทคโนโลยีต่างๆ ในแต่ละแผนกเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต เราไม่ได้หยุดพัฒนาตัวเองไว้เพียงแค่สินค้าประเภทใดประเภทหนึ่ง หรืองานชนิดใดชนิดหนึ่ง หากแต่มีช่องทางหรือโอกาสให้เราได้แตกแขนงสายงานของเราให้ได้มากที่สุด ผมจึงมองว่านี่เป็นโอกาสในอนาคตที่เราสามารถสร้างมูลค่าจากการผลิตสินค้านวัตกรรมใหม่ได้อย่างมหาศาล”
รุกสร้างการรับรู้เรื่องแบรนด์ผ่านโซเชียลมีเดียช่วง New Normal
“ในสถานการณ์โควิด-19 สิ่งหนึ่งที่เป็นโอกาสของสตีล ซิตี้ คือ การใช้ชีวิตแบบ New
Normal ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนอยู่บ้านกันมากขึ้น เสพสื่อทางอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ในขณะที่ความต้องการพลังงานไฟฟ้าในประเทศก็มีความต้องการสูงขึ้นเรื่อยๆ ผมจึงใช้โอกาสนี้เน้นสร้างการประชาสัมพันธ์และโฆษณาแบรนด์ ให้ความรู้และสร้างความน่าเชื่อถือ ผ่านช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยจัดทำคอนเทนต์ต่างๆ ในเพจเฟซบุ๊ก Steel City Thailand และรายการ STEELMAN ของ Steel City Thailand ผ่านช่องยูทูบให้ความรู้และความเข้าใจกับผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ให้มากขึ้น ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดีมาก” เลิศพงษ์ กล่าว
เลิศพงษ์ กล่าวต่อไปว่า การสร้างความเชื่อมั่น คือ กลยุทธ์สำคัญที่สุดทางการตลาด สตีล ซิตี้ มีทีมผู้เชี่ยวชาญเพื่อสร้าง Brand awareness ให้กับกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ในวงกว้างมากขึ้น เน้นนโยบายให้ความรู้ถ่ายทอดแก่กลุ่มผู้ใช้งานให้มีเข้าใจในการเลือกใช้ และติดตั้งอุปกรณ์ติดตั้งท่อร้อยสายไฟอย่างถูกต้อง ซึ่งถือเป็นการยกระดับมาตรฐานวงการติดตั้งระบบท่อร้อยสายไฟของบ้านเราให้เข้าสู่มาตรฐานสากล และจะส่งผลทำให้เราเป็นชื่อแรกที่ลูกค้าจะจดจำบริษัทในฐานะสินค้าที่มีมาตรฐานสำหรับอุปกรณ์เหล่านี้
|