CARRO หรือ คาร์โร สตาร์ทอัปด้านตลาดรถยนต์ แพลตฟอร์มออนไลน์สัญชาติสิงคโปร์ เข้ามาเขย่าวงการตลาดซื้อ – ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ในประเทศไทยกว่า 3 ปี ลุยขยายช่องทางในตลาดรถมือสอง เพิ่มบริการเต็มรูปแบบครบวงจรตอกย้ำความเป็นที่ 1 ในเรื่อง “The better place to buy and sell cars” ช่องทางการซื้อและขายรถยนต์มือสองที่ดีกว่าเดิม ผนึกกำลังชวนพันธมิตรมาเสริพธุรกิจให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางการขายที่มากกว่าเดิม รวดเร็วกว่าเดิม และครบวงจรกว่าเดิม ได้แก่ BMW Thailand , ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)บริษัท รู้ใจ จำกัด, บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด, บมจ. เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย(ประเทศไทย), บริษัท ไทร์บิดออนไลน์ จำกัด, บริษัท แฟรงค์ อินชัวร์รันซ์ โบรกเกอร์ (ไทยแลนด์) จํากัด, บริษัท มาสิกรุ๊ป (ประเทศไทย) จํากัด, Avis Rent A Car System , LLC, Fix carcare, บริษัท เว็บดีกรุ๊ป จำกัด และ Haupcar Company Limited โดยพันธมิตรของเรามีทั้งเกี่ยวกับรถยนต์โดยตรง และ สัมพันธ์ในเชิงไลฟ์สไตล์เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าของเราทุกประเภท
|
นายมานิต โกการ์ Country Manager บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยทิศทางธุรกิจภาพรวมที่ผ่านมา ว่า “ณ ปัจจุบันนี้เราได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 3 ปี ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ทุกธุรกิจต่างได้รับผลกระทบกันทุกส่วนทั่วโลก ซึ่งภาพรวมของ CARRO เองนั้น ทั้งในสาขาที่ต่างประเทศและประเทศไทยเอง นับว่ารายได้ของเราที่มีขึ้นในช่วงโควิดนั้นดีเกินคาดจากที่ประเมินไว้ เพราะในสถานการณ์แบบนี้ คนจำเป็นต้องใช้เงินสด เราจึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกแรกๆที่คนส่วนใหญ่ต้องการพึ่งพาเรา จึงทำให้เราตัดสินใจที่จะขยายธุรกิจเพิ่มในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ โดยได้ทำการแบ่งแฟลตฟอร์ม การซื้อ – ขายรถยนต์มือสองไว้ 4 กลุ่มใหญ่ๆอย่างชัดเจน ได้แก่ กลุ่มที่ 1 Website : CARRO Express บริการสำหรับลูกค้าบ้านทั่วไปต้องการขายรถด่วน , กลุ่มที่ 2 CARRO Wholesale application เป็นช่องทางการซื้อและขายผ่านการประมูลตลอดทั้งวัน , กลุ่มที่ 3 Partnership team การจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจของเรา เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกสำหรับลูกค้าที่ต้องการขายรถจากโชว์รูม รถองค์กร หรือ รถตัดทั่วประเทศ และ กลุ่มที่ 4 ตลาดรถ ซึ่งเป็นช่องทางอีกทางหนึ่งที่ช่วยดีลเลอร์ขายรถในระบบออนไลน์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้ง 4 ช่องทางนี้ เรียกได้ว่าครอบคลุมและครบวงจรที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ อีกทั้งเรายังสวนกระแสวิกฤติเศรษฐกิจโดยขยายทีมงานเพิ่ม ยิ่งแสดงให้เห็นว่าเรายังแข็งแกร่งในสภาวะเช่นนี้ จึงทำให้ CARRO Thailand นั้นเป็นครอบครัวที่ใหญ่มาก ซึ่ง ณ ปัจจุบัน CARRO ทั่วโลกมีสาขาอยู่ 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ (HQ) อินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศไทย CARRO จัดว่าเป็นตลาดค้าส่งยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงได้รับความเชื่อมั่นจากกลุ่มนักลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัปสูงมาก เมื่อเทียบกับธุรกิจสตาร์ทอัปเจ้าอื่น และล่าสุดเรายังกวาดเงินลงทุนเพิ่มได้อีก 110 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และสำหรับครึ่งปีหลังนี้ เรายังคงมุ่งเน้นและพัฒนาการให้บริการการซื้อและขายรถมือสองในรูปแบบออนไลน์ที่ดีที่สุด เพื่ออำนวยความสะดวกทุกขั้นตอนในการขายรถให้กับลูกค้าของ CARRO ทั่วประเทศไทย”
|