ด้าน นางสาวธีราพร ธีรทีป ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารสินค้าอาหารสด กล่าวเสริมว่า “แม็คโครมีความหลากหลายของเนื้อวัวคุณภาพที่นำเข้าจากต่างประเทศและในประเทศ รวมแล้ว 7 ประเทศ ทั้ง เนื้อวัวไทย, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, บราซิล, อาร์เจนติน่า มีสินค้ามากกว่า 1,000 รายการ แบ่งเป็นชิ้นส่วนต่างๆ อาทิ สันใน สันนอก สันแหลม ทีโบน สันคอ สะโพก ลูกมะพร้าว รวมถึงกลุ่มเครื่องใน ตลอดจนเนื้อที่ผ่านการแปรรูปสำหรับทำแฮมเบอร์เกอร์ ไส้กรอก ฯลฯ ตอบทุกโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการร้านอาหาร ซึ่งแม็คโครมีส่วนแบ่งตลาดเนื้อวัวสำหรับไฮเปอร์มาร์เก็ตประมาณ 93%
นอกจากนี้ แม็คโครได้ให้การสนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุนไทยกว่า 5,000 ครัวเรือน พร้อมร่วมยกระดับการเลี้ยง การผลิตสู่ตลาดสากล และได้รับการยอมรับในแง่ของรสชาติและความอร่อย ล่าสุดได้ร่วมมือกับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุนในหลายจังหวัดทั่วประเทศ พัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ พร้อมปั้นแบรนด์เนื้อเกรดพรีเมียม Pro Butcher ซึ่งจะมีการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการตลาด ภายใต้ชื่อ “แม็คโคร แหล่งรวมเนื้อคุณภาพ (Beef Destination)” เพื่อให้ลูกค้าทุกกลุ่มเข้าถึงเนื้อวัวพรีเมียมคุณภาพดีราคาเข้าถึงง่าย ที่แผนกอาหารสด แม็คโครทุกสาขาทั่วประเทศ
ทั้งนี้ แม็คโครเริ่มเปิดตลาดเนื้อพรีเมียม ตั้งแต่ได้ร่วมพัฒนาเนื้อโคขุนไทยแองกัส และไทย วากิว ที่มีลายไขมันแทรก MS4+, MS5+ ซึ่งเป็นเนื้อคุณภาพดี และมีไขมันที่แทรกในเนื้อ (Marbling Score) เป็นที่นิยม จนกระทั่งเกิดการต่อยอดไปสู่เนื้อนำเข้าจากหลากหลายประเทศ ขณะที่กระแสความนิยมในการบริโภคเนื้อวัวของคนไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีอัตราการบริโภคเฉลี่ย 2.7 กิโลกรัมต่อคนต่อปี มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 4 หมื่นล้านบาทต่อปี
|