“การขาย Big Lot ครั้งนี้ เป็นการปรับสัดส่วนโครงสร้างผู้ถือหุ้นภายในของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ระหว่างกลุ่มครอบครัวทอยและกลุ่มครอบครัวปิยะตรึงส์ ซึ่งไม่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ เนื่องจากกลุ่มครอบครัว ทอย และครอบครัวปิยะตรึงส์ มีเป้าหมายเดียวกันที่จะมุ่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กร นอกจากนี้ ผมยังคงมุ่งมั่นบริหารงานบริษัทฯ ต่อไป เพื่อนำ SFT ให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจรในภูมิภาคนี้” นายซุง ชง ทอย กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเร่งติดตั้งเครื่องจักร หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2563 ได้มีมติการอนุมัติให้มีการลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม เพื่อขยายกำลังการผลิตรองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงแผนการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ สนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯได้ประมาณการอัตราการใช้เครื่องจักรในการผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70% ของกำลังการผลิตรวม ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2563 สามารถทำนิวไฮสูงสุดในรอบปีนี้
|