“เรามองเรื่องนี้เป็นทั้ง “จุดร่วม” และ “จุดแข็ง” เมื่อพนักงานเองก็เป็นคน Gen Z ที่ต้องการแสดงศักยภาพเช่นเดียวกับลูกค้า มีพฤติกรรม รสนิยม ความชอบ คล้ายคลึงกับลูกค้า การเปิดพื้นที่ให้เหล่าพนักงานได้มีพื้นที่สื่อสารกับลูกค้า ก็น่าจะตอบโจทย์ทั้งฝั่งพนักงานที่แสวงหาพื้นที่แสดงออก และตอบโจทย์ฝั่งลูกค้าที่ได้รับ Message จากคนที่เข้าใจพฤติกรรมและ Insight ของตัวเองจริงๆ และเป็นการตอกย้ำเรื่องความเข้าใจลูกค้า หรือ Empathy ที่ออริจิ้นมีต่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเสมอมา” อภิสิทธิ์ ระบุ
ครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดอย่างต่อเนื่องของออริจิ้น ในการเปิดพื้นที่ให้พนักงาน Gen Z ได้แสดงศักยภาพ หลังจากได้ให้ Gen Z เข้ามามีส่วนสำคัญในการออกแบบโครงการแบรนด์ ดิ ออริจิ้น (The Origin) จนมีฟังก์ชั่นภายในห้องพักหลายอย่างที่โดนใจ Gen Z ด้วยกัน อาทิ Smart Closet ตู้เก็บของอัจฉริยะ
อภิสิทธิ์ เล่าอีกว่า หลังจากเปิดโอกาสให้ทีมงานได้แสดงฝีมือสร้างสรรค์คลิปวิดีโอโปรโมทโครงการ ปัจจุบัน มีผลงานที่ตัดต่อเสร็จสิ้นและเริ่มเผยแพร่บนช่องทางเฟซบุ๊ค แฟนเพจของ Origin Property แล้ว 3 ชิ้น 3 โครงการ ได้แก่ 1.ดิ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ รามอินทรา (The Origin Plug & Play Ramintra) 2. ดิ ออริจิ้น พหลฯ-สะพานใหม่ (The Origin Phahol – Saphanmai) 3. ไนท์บริดจ์ คอลลาจ สุขุมวิท 107 (KnightsBridge Collage - Sukhumvit107)
ประโยชน์ที่สัมผัสได้ทันทีหลังจากเผยแพร่ คือ 1.การออกจากกรอบการสื่อสารแบบเดิมๆ ปกติการทำคลิปวิดีโอต่างๆ จะต้องพึ่งพา Production House และ Advertising Agency ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการจัดทำค่อนข้างนาน และมีชุดความคิดในการสื่อสารที่เป็นของ House หรือ Agency นั้นๆ การเพิ่มวิธีทางการตลาดในลักษณะนี้ช่วยให้เกิดเนื้อหาที่ออกนอกกรอบ และสื่อสารได้รวดเร็วขึ้น รวมถึงอาจมีความถี่ได้มากขึ้น 2.การเพิ่มชีวิตชีวา ความสดใหม่ให้กับโครงการแบรนด์ต่างๆ ของออริจิ้น ภาพลักษณ์ดูใกล้ชิดผู้บริโภคมากขึ้น สะท้อนตัวตนของผู้บริโภคมากขึ้น จากคนทำที่เป็นกลุ่มคน Gen เดียวกัน ส่งผลให้แต่ละคลิปได้รับกระแสตอบรับที่น่าพึงพอใจ 3.พนักงานภูมิใจในผลงาน มีความสุขจากการได้แสดงศักยภาพ มีคนยอมรับในตัวตน และรู้สึกชีวิตมีความเคลื่อนไหวจากการไม่ต้องทำแต่เพียงงานแบบเดิมๆ ซ้ำๆ
“เราคงไม่ได้ลดหรือเลิกทำการตลาดในรูปแบบอื่นๆ หรือช่องทางอื่นๆ เพราะเรายังมองว่าการตลาดรูปแบบอื่นๆ ก็ยังคงทำคู่ขนานกันไปได้ แต่พื้นที่ปล่อยของนี้ จะเปิดโอกาสให้พนักงานของเราได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ และได้สื่อสารกับกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นคน Gen เดียวกันโดยตรง เรามีสินค้าที่ดี ที่คิดโดยคนรุ่นใหม่อยู่แล้ว ก็อยากให้ทุกคนได้ลองดู ว่าไอเดียของคนรุ่นใหม่ในการสื่อสารเรื่องคอนโดเพื่อคนรุ่นใหม่ เป็นอย่างไร” อภิสิทธิ์ ระบุ
สำหรับบริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด เป็นบริษัทที่พัฒนาโครงการกลุ่มสมาร์ท คอนโดมิเนียม ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีแบรนด์หลักภายใต้การดูแลคือแบรนด์ ดิ ออริจิ้น (The Origin) เน้นเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน (First Jobber) และกลุ่มที่เพิ่งซื้อคอนโดมิเนียมหลังแรก (First Condo Buyer) อายุประมาณ 23-28 ปี โดยในปี 2562 มีการเปิดตัวโครงการภายใต้แบรนด์ดังกล่าวถึง 6 โครงการหลากหลายทำเลศักยภาพ มูลค่าโครงการรวมกว่า 7,700 ล้านบาท และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี จนทำให้หลายโครงการสามารถ Sold Out 100% ได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 81 โครงการ เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) ดิ ออริจิ้น (The Origin) ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 125,000 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร
|