“ความร่วมมือกับ ท็อปกอล์ฟ ในครั้งนี้ ถือเป็นมิติใหม่ของธุรกิจศูนย์การค้า ซึ่งเรามั่นใจว่า ท็อปกอล์ฟ จะมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงการเมกาซิตี้ และเป็นการตอกย้ำความเป็น The Great Meeting Place ที่เป็นมากกว่าสถานที่ช็อปปิ้ง พร้อมจะรองรับลูกค้าจากทุกพื้นที่ ไม่ใช่เฉพาะกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกเท่านั้น แต่จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม จากทุกพื้นที่ รวมถึงลูกค้าจากในเมือง ทั้งนี้ ด้วยศักยภาพของลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมามีลูกค้าใช้บริการถึง 50 ล้านคนต่อปี เป็นกลุ่มครอบครัวที่มีกำลังซื้อสูง เป็นฐานลูกค้าที่มีศักยภาพ จะช่วยต่อยอดเป้าหมายทางธุรกิจให้กับ ท็อปกอล์ฟ ได้เป็นอย่างดี โดยคาดว่าจะมีผู้เข้ามาใช้บริการในโครงการเมกาซิตี้ถึงวันละ 250,000 คน และ ท็อปกอล์ฟ จะเป็น Destination ใหม่ที่โดดเด่นและแตกต่างจากที่อื่น ด้วยแนวคิดที่ผสานทั้งกีฬากอล์ฟ และเอ็นเตอร์เทนเมนท์ไลฟ์สไตล์เต็มรูปแบบแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มให้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ได้อย่างแน่นอน” นางสาวปพิตชญา กล่าวเสริม
“การนำเสนอประสบการณ์ความบันเทิงระดับไอคอนิกแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนรุกขยายธุรกิจของเราเพื่อมอบช่วงเวลาอันน่าประทับใจแก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ รวมไปถึงบุคคลทั่วไปที่แม้จะไม่ได้เล่นกอล์ฟก็ตาม โดยลูกค้ามากกว่า 20 ล้านคนจากทั่วโลกได้ใช้บริการของท็อปกอล์ฟเกือบ 70 แห่งในแต่ละปี ทั้งที่ลาสเวกัสไปจนถึงโกลด์โคสต์ ออสเตรเลีย และจากไมอามีไปจนถึงดูไบ เราจึงมั่นใจว่าการนำเสนอแหล่งสังสรรค์ในแบบฉบับท็อปกอล์ฟจะเป็นที่ถูกใจลูกค้าชาวไทยอย่างแน่นอน” มร.แอนดรูว์ นาธาน กรรมการผู้จัดการ ทีจี เอสอีเอ ดีเวล็อปเมนต์ กล่าว
มร.ทิม โบดา ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ ท็อปกอล์ฟ ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “ไม่ว่าคุณจะเป็นนักกอล์ฟตัวจริงหรือผู้เล่นหน้าใหม่ในเกมกีฬาชนิดนี้ ก็จะหลงรักการใช้เวลาว่างที่ดีร่วมกัน ทั้งครอบครัวและเด็ก ๆ จะได้สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับเกมต่างๆ มากมาย ในขณะที่นักกอล์ฟจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีการติดตามผลและการวิเคราะห์วงสวิงเพื่อช่วยเพิ่มประสบการณ์และปรับปรุงการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ห้องประชุมของเรามีทางเลือกที่หลากหลายรูปแบบให้บริษัท เพื่อเป็นวิธีใหม่ในการประชุม พบปะสังสรรค์ และเลี้ยงฉลองในวาระต่าง ๆ ร่วมกัน
ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ ซึ่งจะเปิดใหม่นี้ มีแผนที่จะว่าจ้างงานบุคลากรมากกว่า 400 คน เป็นศูนย์รวมความบันเทิงสูง 3 ชั้นครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 47,000 ตารางเมตร (29 ไร่) ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่เกือบเท่ากับสนามฟุตบอล 7 สนามรวมกัน รวมถึงฮิตติ้งเบย์กลางแจ้งถึง 98 ช่อง พร้อมที่นั่งแสนสะดวกสบายรองรับผู้เล่นกว่า 600 คนไว้คอยบริการตลอดวัน ภายในศูนย์รวมความบันเทิงแห่งนี้ยังมีบาร์และร้านอาหารที่หลากหลาย ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่และอื่นๆอีกมากมาย แขกผู้มาเยือนสามารถเพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่มคุณภาพสูงหลากหลายรายการ นับตั้งแต่อาหารอเมริกันคลาสสิกไปจนถึงอาหารไทยรสเลิศ โดยเลือกวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมจากในประเทศที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถันโดยเชฟ
“ทั้งนี้ ด้วยศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจของย่านบางนา ซึ่งมีการขยายตัวด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทฯ ได้เปิดกว้างในรูปแบบของการลงทุนในโครงการเมกาซิตี้ ทั้งการซื้อที่ดิน การเช่าระยะยาว และการพัฒนาโครงการตามความต้องการสำหรับนักลงทุน และพันธมิตรธุรกิจ ทั้งชาวไทยและต่างชาติที่มีเป้าหมายและวิสัยทัศน์เหมือนกัน เพื่อร่วมกันสร้างให้โครงการเมกาซิตี้เป็นจุดนัดพบที่ยิ่งใหญ่ และครบวงจรอย่างแท้จริง ที่รองรับลูกค้าได้จากทุกพื้นที่ และทุกกลุ่มวัย โดยเชื่อมั่นว่าจะเป็นการลงทุนที่ตอบโจทย์ของนักลงทุนได้อย่างดี รวมถึงโปรเจ็กต์ของภาครัฐที่กำลังจะพัฒนาเข้ามาในพื้นที่ ทั้งรถไฟฟ้าสายสีเหลือง รถไฟฟ้ารางคู่บางนา – สุวรรณภูมิ และสนามบินนานาชาติ และอีกทั้งอยู่ใกล้โซน EEC อีกด้วย รวมถึงศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการ โครงสร้างสาธารณูปโภค และกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อที่เดินทางมาใช้บริการที่ศูนย์การค้าเมกาบางนาอยู่แล้ว โดยตั้งแต่เราได้เปิดตัวโครงการเมกาซิตี้ เราได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกันเป็นจำนวนมาก และเราเชื่อมั่นว่ายังมีอีกหลายองค์ประกอบที่จะสามารถเติมเต็มความสมบูรณ์ของเมกาซิตี้ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของโซนกรุงเทพตะวันออกด้วยกัน” นางสาวปพิตชญา กล่าวสรุป
|