ส่วนทิศทางตลาดในประเทศ ยังเผชิญความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยภาครัฐประกาศล็อกดาวน์ในช่วงไตรมาส 3/2564 ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงักและกำลังซื้อชะลอตัว ดังนั้น TKN จะบริหารจัดการความเสี่ยงต่างๆ ให้รัดกุมในทุกด้าน รวมถึงติดตามความคืบหน้าการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญต่อแผนงาน TKN ซึ่งในเบื้องต้นประเมินว่าการแพร่ระบาดจะคลี่คลายในทางที่ดีขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยบริษัทฯ มีแผนนำเสนอสินค้าใหม่พร้อมทำแคมเปญส่งเสริมการขาย เพื่อสร้างโมเมนตัมให้กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ขณะที่กลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนหรือ Quick Service Restaurant (QSR) ของบริษัทในเครือ จะมุ่งขยายช่องทางจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่มากขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TKN กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 1,703 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 78.4 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2/2564 ตลาดในประเทศยังมียอดขายจากผลิตภัณฑ์สาหร่ายและผลิตภัณฑ์นมพลาสเจอร์ไรส์รสชานม “จัสท์ ดริ้งค์” เข้ามาสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานยังคงเติบโตไปได้ดี ทำให้สามารถชดเชยยอดขายจากตลาดต่างประเทศบางส่วนที่ชะลอตัว โดยเฉพาะตลาดประเทศจีนที่อยู่ระหว่างการปรับกลยุทธ์ใหม่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลักดันการเติบโตของตลาดต่างประเทศให้กลับมาแข็งแกร่งได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงตอบแทนผู้ให้แก่ผู้ถือหุ้นซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 30 สิงหาคม 2564 และจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 10 กันยายน 2564
|