เพื่อแสดงให้เห็นว่าการสร้างคอนเทนต์สามารถเข้าถึงได้ง่ายเพียงใด การถ่ายทำภาพยนตร์ทั้งหมดในเรื่องนี้ได้ถูกถ่ายขึ้นโดย Xiaomi 11 Ultra* สมาร์ทโฟนแฟล็กชิปพรีเมียมที่ได้ปฏิวัติวงการการถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว และเป็น สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ใช้เซ็นเซอร์กล้อง GN2 อีกด้วย Mike Harvey ผู้กำกับของ “One Billion Views” เลือกเทคนิคการถ่ายทำแบบ Long Take เน้นให้เห็นถึงความคล่องตัวในการเก็บภาพด้วยสมาร์ทโฟน และแสดงให้เห็นว่า ไม่มีข้อจำกัดในการถ่ายทำภาพยนตร์ในสมาร์ทโฟนอีกแล้วในปัจจุบันนี้
ไม่เพียงแค่ Arun Maini หรือ Mrwhosetheboss ที่ผลิตภาพยนตร์สั้นสำหรับเทศกาลภาพยนตร์ของเสียวหมี่ในครั้งนี้ แต่ยังรวมถึงผู้ผลิตภาพยนตร์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นครีเอเตอร์จากเสียวหมี่อย่าง Vincenzo De Caro และ Eduardo Ohara, Oscar Villaroya นักศึกษาชาวสเปนจากมหาวิทยาลัย TAI Escuela Universitaria de Artes Film รวมทั้ง Gabriele Muccino ผู้กำกับชื่อดังชาวอิตาเลียนและ บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับชื่อดังชาวไทย เจ้าของผลงานฉลาดเกมส์โกง อีกด้วย โดยรากฐานที่สำคัญของงานเทศกาลภาพยนตร์ในครั้งนี้ คือการมีส่วนร่วมของ Chris Overton ผู้กำกับชาวอังกฤษชื่อดังเจ้าของรางวัล ออสการ์ ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง Leader ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ตั้งคำถามในความคิดสร้างสรรค์บนโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
แม้จะมีผลงานภาพยนตร์สั้นเหล่านี้จะมีแนวทางที่แปลกใหม่ในการตอบคำถามเกี่ยวกับวิถีชีวิตแบบ “The New Normal” แต่ใจความหนึ่งเดียวจากทุกเรื่องคือ การที่พวกเขาตั้งใจที่จะเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนทว่าน่าตื่นตาตื่นใจในช่วงเวลานี้ด้วยการมองโลกในแง่ดี และหวังว่า “สิ่งมหัศจรรย์กำลังจะเกิดขึ้น” โดยสื่อสารผ่านภาพยนตร์เรื่อง One Billion Views ที่กล่าวไปข้างต้นและภาพยนตร์ต่างๆ ดังต่อไปนี้
ภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์: “Leader” โดย Chris Overton ผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์
ในภาพยนตร์เรื่อง “Leader” Overton ได้สำรวจความเป็นวิถีชีวิตแบบ “The New Normal” ผ่าน Donnie ตัวละครเอกซึ่งเป็นศิลปินผู้ที่อาศัยอยู่ที่ชายฝั่งทะเลอันไกลโพ้นที่มีชีวิตอยู่เพื่อการเก็บรวบรวมพลาสติกที่ล้างแล้วมาสร้างสรรค์เป็นประติมากรรมในงานเวิร์กชอปชั่วคราวของเขา และเช่นเดียวกันกับหลาย ๆ คนบนโลกใบนี้ ที่จู่ ๆ ชีวิตของเขาก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อขยะก็ได้หยุดชะงักจากการเข้ามาที่ชายฝั่งและมีคนแปลกหน้าที่สวมหน้ากากเริ่มเข้ามาเยี่ยมเยียนเขา ทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจให้เกิดชีวิตแบบ “The New Normal” ให้กับคนรอบข้างเพื่อกอบกู้ทะเลกลับมา
ภาพยนตร์ของนักเรียน: Twenty Summers โดย Oscars Villarroya
Xiaomi Studios ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นเวทีระดับโลกให้กับผู้สร้างภาพยนตร์ในการแชร์วิสัยทัศน์ในด้านของวิถีชีวิตแบบ “The New Normal” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ในครั้งนี้ เสียวหมี่จึงร่วมมือกับ TAI Escuela Universitaria de Artes โรงเรียนภาพยนตร์ชื่อดังของประเทศสเปนขึ้น ความร่วมมือในครั้งนี้ทำให้ Oscar Villarroya นักเรียนในมหาวิทยาลัย สร้างสรรค์ภาพยนตร์เกี่ยวกับความวิตกกังวลที่นักเรียนอย่างเขาต้องเผชิญเมื่อต้องรับมือกับผลกระทบจากโรคระบาดครั้งใหญ่และการเปลี่ยนผ่านสู่วิถีชีวิตแบบ “The New Normal” โดยภาพยนตร์เรื่อง Twenty Summers บอกเล่าเรื่องราวการติดตามเพื่อนสนิททั้งสามคนในการเดินทางร่วมกันครั้งสุดท้ายรอบๆ ชนบทของประเทศสเปน ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป แต่หนึ่งในนั้นกลับยังไม่พร้อมที่จะใช้ชีวิตแบบ “The New Normal” นั่นเอง
ภาพยนตร์ระดับภูมิภาคโดย Xiaomi Creators และผู้กำกับชื่อดัง
เทศกาลภาพยนตร์เสียวหมี่ได้ร่วมงานกับผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังและ Xiaomi Creators ในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อนำเสนอการเกิดขึ้นของสมาร์ทโฟนในฐานะวิถีชีวิตแบบ “The New Normal” ในการสร้างภาพยนตร์ของผู้กำกับหน้าใหม่และผู้กำกับที่กำลังจะเกิดขึ้นทั่วโลกอย่างเช่น “The Reels Deal” โดย บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะผู้สร้างภาพยนตร์ชาวไทยชื่อดัง, “Living in a Movie” โดยเสียวหมี่ประเทศอิตาลีและผู้กำกับชาวอิตาเลียนชื่อ Muccino Gabriele “Renaissance” โดย Vincenzo De Caro หรือ Xiaomi Creator ชาวอิตาเลียนที่ให้นิยามใหม่ของชีวิตการทำงานจากที่บ้าน และ“Simply Co.” โดย Eduardo Ohara หรือ Xiaomi Creator ชาวบราซิลที่จะทำให้การใช้ชีวิตของคุณเรียบง่ายยิ่งขึ้น
โดยภาพยนตร์สั้นทั้งหมดที่จะฉายในเทศกาลภาพยนตร์มีกำหนดฉายรอบปฐมทัศน์ทางออนไลน์และเทศกาลภาพยนตร์ในครั้งนี้จะสิ้นสุดลงด้วยกิจกรรมออฟไลน์กับมหาวิทยาลัย TAI Escuela Universitaria de Artes ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปนโดยคาดว่า Oscar Villaroya จะเข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย
Steven Senshan ยังได้กล่าวปิดท้ายว่า “สำหรับแพลนในอนาคตของเทศกาลภาพยนต์เสียวหมี่ ผมหวังว่าพวกเราจะสามารถขยายขอบเขตของโปรเจคนี้โดยการมอบแพลตฟอร์มให้กับผู้ผลิตภาพยนตร์ได้แชร์หรือรวมทั้งการจัดการแข่งขันในส่วนของเทศกาลภาพยนตร์ได้ในอนาคต ผมยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวยแล้วเราจะสามารถจัดการฉายรอบ ปฐมทัศน์ได้แบบออฟไลน์ในที่ใดที่หนึ่ง (อาจเป็นประเทศไทย!) ในฐานะที่ผมเป็นคนที่หลงรักในภาพยนตร์ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผมจะได้จัดงานเทศกาลภาพยนตร์ของเสียวหมี่รอบปฐมทัศน์ในโรงภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกด้วย”
*การเซ็ทกล้องหลังของ Mi 11 Ultra: 50MP เลนส์กล้องมุมกว้าง, 48MP Sony IMX586 เลนส์กล้องอุลตร้าไวด์, 48MP Sony IMX586 เลนส์กล้องเทเลโฟโต้
|