ส่วนแนวโน้มของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารและบริการในปีนี้ มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากการที่ผู้ประกอบการธุรกิจกลับมาเปิดให้บริการได้เกือบ 100% รวมถึงมาตรการผ่อนคลายและลดข้อจำกัดการเดินทางจากต่างประเทศของภาครัฐที่เปิดรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้คาดว่าไตรมาส 3 และ 4 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ผู้ประกอบการจึงต้องเตรียมความพร้อมในทุกส่วนอย่างเต็มที่ ซึ่งงานฟู้ดแอนด์ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 เป็นตัวช่วยสำคัญและครบวงจรที่สุด ที่จะทำให้ธุรกิจปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ไปพร้อมกับเทรนด์ธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น
ด้านนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจร้านอาหารและความร่วมมือในการจัดงานฟู้ดแอนด์ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 ว่า ธุรกิจร้านอาหารกว่า 4 แสนราย ถือว่าได้รับโอกาสที่ดีจากการช่วยเหลือของภาครัฐมาโดยตลอดและยังดำเนินธุรกิจได้แม้ในสถานการณ์โควิด ซึ่งขณะนี้กำลังมีการฟื้นตัว เพราะผู้บริโภคต้องการกลับมาใช้ชีวิตในภาวะปกติ แต่ปีนี้ผู้ประกอบการยังต้องระวังอีกหลายเรื่อง ทั้งการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการประกอบธุรกิจและต้นทุนวัตถุดิบ รวมถึงสถานการณ์โควิดที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง อาทิ พฤติกรรมผู้บริโภคที่สั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน เดลิเวอรี่ การเกิดขึ้นของ Cloud Kitchen ฯลฯ
นอกจากนั้น ยังมีการแข่งขันที่สูงเฉพาะปี 64 มีคนเข้าสู่ธุรกิจอาหารประมาณแสนราย ซึ่งอาจเริ่มต้นจากครัวในบ้าน (Home Kitchen) แต่เมื่อประสบความสำเร็จก็ต้องมีการยกระดับเทคโนโลยี อุปกรณ์ เครื่องมือให้เหมาะสมกับธุรกิจให้เร็วขึ้น ได้มาตรฐานขึ้น โดยใช้แรงงานน้อย ผู้ประกอบการที่แข็งแรงเท่านั้นจึงจะยืนอยู่ในธุรกิจนี้ได้ งานฟู้ดแอนด์ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 จึงเป็นคำตอบและมีความสำคัญต่อผู้ประกอบการร้านอาหารอย่างมาก ทางสมาคมฯมีการร่วมจัดงานมาตลอด 15 ปี โดยการจัดงานทุกครั้งเป็นเหมือนจุดนัดพบของผู้ประกอบการจากทั่วประเทศ ที่จะมาอัปเดทเทรนด์ ความรู้ใหม่ๆ วัตถุดิบ อุปกรณ์ เทคโนโลยี การประชุม สัมมนา ที่มีครบจบในที่เดียว ซึ่งการจัดงานครั้งนี้มีโซนธุรกิจร้านอาหารและบาร์ (Restaurant & Bar Thailand) ที่จัดขึ้นใหม่ ทางสมาคมฯ เองก็ได้จัดเตรียมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์อย่างมากมายไว้ให้กับผู้ร่วมงานอีกด้วย
ด้านนายมีชัย อมรพัฒนกุล นายกสมาคมบาริสต้าไทย เปิดเผยเพิ่มเติมถึงแนวโน้มของธุรกิจกาแฟและร้านกาแฟว่า สถานการณ์โควิดส่งผลให้ภาพรวมตลาดกาแฟในไทยอยู่ในระดับคงที่ จากในภาวะปกติที่การเติบโตประมาณ 3-5% และมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 60,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ตลาดกาแฟนอกบ้านคาดว่าจะกลับมาเติบโตจกาการกลับมาใช้ชีวิตปกติมากขึ้นของคนไทย โดยสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเฝ้าระวัง คือ สถานการณ์โควิดที่ยังไม่หมดไป ต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่พุ่งสูงขึ้น ทั้งเมล็ดกาแฟสาร อุปกรณ์ และการบริหารจัดการ รวมถึงการแข่งขันของตลาดกาแฟและร้านกาแฟที่เข้มข้นมากขึ้น
การเยี่ยมชมงานฟู้ดแอนด์ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 จึงเป็นช่องทางหนึ่งที่ดีต่อการพัฒนาธุรกิจและผู้สนใจ โดยทางสมาคมฯ ได้ให้การสนับสนุนการจัดงานอย่างเต็มที่ ซึ่งในปีนี้จะมีโซนธุรกิจกาแฟและเบเกอรี่ (Coffee & Bakery Thailand) เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นโซนที่รวมสินค้า อุปกรณ์ บริการ และผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟและธุรกิจกาแฟที่สามารถแลกเปลี่ยนความรู้
และคำแนะนำเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจต่อไปได้ รวมถึงมีกิจกรรมการแข่งขันสำคัญ 2 รายการ คือ การแข่งขันศิลปะบนถ้วยกาแฟ (Thailand National Latte Art Championship (TNLAC) และ การสร้างสรรค์เครื่องดื่มจากกาแฟ (Thailand National Coffee in Good Spirits Championship (TNCIGS) ) เพื่อหาตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันเวทีระดับโลกอีกด้วย
สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าและผู้สนใจรายละเอียดการจัดงาน ฟู้ด แอนด์ ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 มีกำหนดการจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 21 - 24 กันยายน 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ |