มาตรการ THAI SME-GP ได้เริ่มดำเนินการเมื่อปลายปี พ.ศ. 2563 เป็นต้นมา จากข้อมูล ณ วันที่ 17 พ.ค. 2565 พบว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนรวมทั้งสิ้น 132,178 ราย มีสินค้าและบริการรวม 1,056,788 รายการ ก่อให้เกิดมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างจากหน่วยงานภาครัฐ ในปี 2564 ที่ผ่านมา รวม 551,365.50 ล้านบาท โดยสินค้าที่ภาครัฐนิยมจัดซื้อจัดจ้างในลำดับต้น ๆ ได้แก่ งานก่อสร้างและปรับภูมิทัศน์ วัสดุก่อสร้าง-อุปกรณ์ไฟฟ้า ยานพาหนะ-พาหนะให้เช่า คอมพิวเตอร์-ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์สื่อสาร หนังสือและสื่อการเรียนการสอน เครื่องใช้สำนักงาน เวชภัณฑ์-อุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น
และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ส่งผลให้บางธุรกิจเติบโตและทำมูลค่าในตลาดสูง สสว. มองเห็นในศักยภาพและมุ่งเป้าในการส่งเสริมไปที่กลุ่มนี้ ได้แก่ อุตสาหกรรมการแพทย์ อุตสาหกรรมการบิน และอุตสาหกรรมดิจิทัล ด้วยมาตรการ THAI SME–GP ที่มอบสิทธิพิเศษให้แก่ผู้ประกอบการในระบบได้มีข้อได้เปรียบในการแข่งขันรับงานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ อีกทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์ในด้านต่าง ๆ มากมาย และคาดว่า ในปลายปี พ.ศ. 2565 นี้ จะมีจำนวนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ลงทะเบียนในระบบ 1.4 แสนราย และมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐสูงถึง 700,000 ล้านบาท โดยในอนาคตจะขยายไปสู่การจัดซื้อจัดจ้างภาคเอกชนต่อไป
สสว. ยังมุ่งมั่นในภารกิจส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ รวมถึงช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ SME เข้าถึงบริการและสิทธิประโยชน์ได้มากขึ้น อาทิ แอปพลิเคชัน SME CONNEXT แหล่งรวมข่าวสารและบริการต่าง ๆ ของ สสว. และ Online Market Place เว็บไซต์ www.smeacademy365.com ระบบเรียนรู้ออนไลน์ที่จำเป็นในการพัฒนาธุรกิจ หรือ SME Coach ระบบฐานข้อมูลรวบรวมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาช่วยเหลือ SME และ เว็บไซต์ www.smeone.info ช่องทางเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับผู้ประกอบการในมิติต่าง ๆ อีกด้วย |