|
SB DESIGN SQUARE (เอสบี ดีไซน์สแควร์) ผู้นำด้านเฟอร์นิเจอร์และการออกแบบตกแต่งบ้าน ที่เข้าใจไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่หลากหลายในยุคปัจจุบัน จับมือ PDM (พีดีเอ็ม) แบรนด์นักออกแบบรุ่นใหม่ที่ใช้พลังการดีไซน์เป็นโซลูชันหลักในการรังสรรค์ให้บ้านสวยอย่างมีสไตล์ เพิ่มความน่าอยู่ยิ่งขึ้น ร่วมกันออกแบบคอลเลกชันพิเศษ ‘ALLCONIC’ นิยามใหม่ของการสร้างสรรค์ชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์ในแบบ Fashion Living ด้วยดีไซน์ระดับ Iconic ที่ไม่เพียงแค่มีดีไซน์ที่ดีแต่ยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ ช่วยเติมความสุนทรียะให้กับมุมพิเศษภายในบ้าน พร้อมเปิด Flagship Store ให้เหล่าสาวก PDM BRAND ช้อปกันอย่างจุใจที่ เอสบี ดีไซน์ สแควร์ สาขาราชพฤกษ์
นายพิเดช ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เปิดเผยว่า การร่วมมือกับ PDM ในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยการสร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์ในแบบ Design Object ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ในฐานะผู้นำด้านเฟอร์นิเจอร์และการแต่งบ้าน ภายใต้แนวคิด Home Design Solutions การสร้างสรรค์และพัฒนาผลงานดีไซน์ใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้งเพื่อเติมเต็มความต้องการของไลฟ์สไตล์เทรนด์ในทุกช่วงเวลาจึงเป็นความท้าทายให้ SB Design Square ต้องเฟ้นหาความใหม่ที่พิเศษสุดมานำเสนอในแต่ละปี จากที่ผ่านมาเราได้มีการ Collaboration เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆที่เชื่อมโยงกับการใช้ชีวิตของคนเจนใหม่ในหลากหลายมิติทั้งในด้านเทคโนโลยี สถาปนิก อินทีเรีย ศิลปินนักวาดภาพ หรือแม้แต่แบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ระดับโลกจากฝรั่งเศสอย่าง ELLE DECOR โดยเชื่อว่าการจับมือกับ PDM แบรนด์ที่มีความโดดเด่นด้านงานดีไซน์อันเป็นอัตลักษณ์ มาร่วมสร้างสรรค์ผลงาน ผสมผสานความเชี่ยวชาญที่มี เพื่อส่งมอบโซลูชันในการอยู่อาศัยเพื่อเติมเต็มความสุขในทุกโมเมนต์ของการใช้ชีวิต ด้วยสุดยอดผลงานดีไซน์ในระดับ Iconic ของวงการเฟอร์นิเจอร์ ทั้งยังคัดสรรวัสดุที่มีคุณภาพสูงมานำเสนอในราคาที่สามารถจับต้องได้ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการตกแต่งบ้านได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ และที่สำคัญคุณภาพของสินค้ายังมีความทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย นอกจากนี้ทีมออกแบบจาก PDM ได้ออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด เพื่อให้ได้คอลเลกชันที่สะท้อนความเป็น DNA ของ PDM ไว้อย่างครบถ้วนและยิ่งไปกว่านั้นในครั้งนี้เราได้ร่วมมือกันเปิด PDM FIRST FLAGSHIP STORE ที่สาขาราชพฤกษ์เพื่อเอาใจเหล่าสาวก PDM BRAND ให้ได้มาช้อปมาสัมผัสสินค้าจริงๆแบบไม่ต้องพรีออเดอร์ เพราะที่นี่เรามีสต๊อคสินค้าพร้อมส่งให้ทันที เราคาดหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างแน่นอน” นายพิเดช กล่าวถึงความร่วมมือกับ PDM ในครั้งนี้
ด้านนายดุลยพล ศรีจันทร์ ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ PDM กล่าวถึงความพิเศษในโปรเจกต์ ALLCONIC นี้ว่า การที่ทีมนักออกแบบของ PDM ได้จุดประกายความท้าทายครั้งใหม่ร่วมกับ SB Design Square แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่มีชื่อเสียงและอยู่คู่คนไทยมากว่า 50 ปี โดยมุมมองที่ใช้เป็นหัวใจของการทำงานโปรเจกต์นี้คือการผลักงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ในแบบฉบับ Fashion Living ตามแนวทางของ PDM มอบให้แก่ลูกค้าของ SB Design Square ด้วยการสร้างสรรค์งานดีไซน์ระดับ ICONIC ที่สะท้อนผ่านภาษางานออกแบบที่ทรงพลังมากถึง 5 ซีรีย์ ภายใต้ Supervision แห่งทีมดีไซน์ของ PDM ประกอบด้วย
· Parcel Sofa Series ดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรายละเอียดบนกล่องกระดาษที่ทุกคนคุ้นเคย พัฒนาให้เกิดฟังก์ชัน เอื้อกับการวางในพื้นที่ที่หลากหลาย สัดส่วนที่พิเศษไม่เหมือนโซฟาที่เป็น Architype เดียวกันทำให้งานดูเป็น ICONIC โดดเด่นออกมาจากบรรยากาศโดยรอบ สร้างพื้นที่ให้ดูพิเศษเป็นดีไซน์ที่มีภาษาของ PDM อย่างชัดเจนมาก ที่มาของแรงบันดาลใจทำให้ดีไซน์นั้นสามารถต่อยอดได้ไม่มีลิมิตในแง่ของการนำไปใช้ใน Space ตั้งแต่ที่อยู่อาศัยไปจนถึงงานโปรเจกต์โรงแรม และ Public Space
· 321 Family Sofa แนวคิดที่สำคัญของ PDM ที่ดำเนินขั้นตอนการออกแบบทุกชิ้นคือการใส่ไอเดียที่น่าสนใจเข้าไปในสินค้าที่ทุกคนคุ้นเคย โซฟา 3 ที่นั่ง เบาะเป็นอิสระแยกจากกัน เรียงตามขนาดเล็กกลางใหญ่ตามลำดับ อาจจะเรียกว่าเป็นโซฟาพ่อแม่ลูก หากบ้านใครมีเด็ก ก็จะพบว่าโซฟาตัวนี้ได้ถูกถ่ายทอดให้ทุกคนในครอบครัวมีโอกาสเป็นเจ้าของที่นั่งของตัวเอง และสามารถสลับเบาะกันได้ตามกิจกรรมสุดท้ายแล้วเรียงจากซ้ายไปขวา อาจจะไม่ใช่ One Two Three แต่เป็น Three One Two หรือ Two One Tree ก็เป็นไปได้ทั้งหมด
· Blossom Stool การรวมตัวกันของครอบครัวและเพื่อนฝูงแบบไม่เป็นทางการคือความเบิกบาน เก้าอี้สตูลรูปทรงดอกไม้มีโต๊ะกลางขนาดเล็กสำหรับวางแก้ว ทีม PDM ออกแบบให้เก้าอี้มีสองรูปแบบที่มีรูปทรงต่างกันเล็กน้อย โดยตั้งใจให้เวลานำมาเก็บรวมกับโต๊ะภาพรวมของรูปทรงจะสื่อสารความเป็นออร์แกนิคของดีไซน์ถึงแม้จะผลิตในกระบวนการอุตสาหกรรม หรือหากวางใน Space จำนวนมากการเรียงแบบไม่ซ้ำกันจะส่งผลให้เนื้อหาของตัวดีไซน์มีความน่าสนใจมากขึ้น
· Drawer Sofa โซฟาที่เรียบง่าย ออกแบบให้มีรูปทรง (Form) ที่คุ้นเคย มีจุดเด่นคือการรวมฟังก์ชันอย่างลิ้นชัก ชั้นวางนิตยสารที่ปกติอยู่ใต้โต๊ะกลางรับแขกให้เข้าไปอยู่ที่แขนโซฟาโดยมอง
ไม่เห็นจากภายนอก สุดท้ายความเรียบง่ายของโซฟาจะทำให้บ้านดูมีสไตล์ เรียบง่ายอย่างทรงพลัง ลดการกวนสายตาจากการวางนิตยสารต่างๆ หรือการเก็บหนังสือเล่มโปรดบนโต๊ะให้หมดไป
· Tree Collection คือคอลเลกชันโซฟาที่ต้องการให้สื่อสารการใช้งานแบบแบ่งส่วน (Sectional) ทีมนักออกแบบ PDM ต้องการนำความรู้สึกของการนั่งบนพื้นดินอ่อนนุ่มเอาหลังพิงกับต้นไม้มาถ่ายทอดผ่านเบาะที่มีความสูงต่ำกว่าระดับโซฟาปกติ ใช้เสาบุฟองน้ำแข็งแรงแทนลำต้นปักไว้ในส่วนที่ผู้ใช้งานสามารถเดินเข้า (Access) ได้จากทุกทิศทาง ด้วยแบบแปลนของเฟอร์นิเจอร์ที่เหมือนเบาะสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ทำให้โมเดลนี้สามารเคลื่อนไหวจัดเรียงตามแปลนของพื้นที่ได้อย่างไร้รูปแบบ ทำให้ Space น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้นในสไตล์งาน Installation
ด้านแนวคิดในการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้แก่ผู้บริโภคด้วยการสร้างสรรค์กลยุทธ์ Collaboration Marketing ที่ SB Design Square ได้ทำมาอย่างต่อเนื่องนั้น บริษัทฯ จะยังดำเนินการต่อไปด้วยการมุ่งมั่น แสวงหาพันธมิตรที่มีความสนใจและความพร้อมในการร่วมมือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่ยังคงมีเอกลักษณ์และสะท้อนความเป็นตัวตน ทั้งยังพร้อมที่จะขับเคลื่อนและสร้างความแตกต่างและความน่าสนใจให้กับตลาดไปพร้อมกัน ภายใต้เป้าหมายที่ชัดเจนคือการสร้างสรรค์ความแปลกใหม่ให้กับแบรนด์ (Enhancing creativity) เนื่องจากสินค้าที่ออกสู่ตลาดจากการทำ Collaboration Marketing เป็นสิ่งใหม่และไม่เคยมีมาก่อนหรือเป็น Limited Edition และเป็นการโชว์ศักยภาพความคิดสร้างสรรค์ของแบรนด์ ที่ทั้งช่วยสร้างมูลค่าให้แก่สินค้าและได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแต่ละแบรนด์ ทำให้แบรนด์ทั้ง 2 มีความโดดเด่น และมีภาพลักษณ์เหนือคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันอีกด้วย นอกจากนั้น สินค้าที่เป็น Limited Edition มักจะขายดีและเป็นที่ถูกใจในหมู่นักสะสม เพราะมีจำนวนจำกัด หาได้ยากและมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในทุกวัน หากบริษัทฯ พัฒนาไปสู่จุดดังกล่าวได้จะสามารถขยายฐานลูกค้าและมีการเติบโตทางธุรกิจที่มั่นคงยิ่งขึ้น “การร่วมมือกันของ 2 แบรนด์เป็นการขยายตลาดผ่านการแชร์ฐานลูกค้าของแต่ละแบรนด์ร่วมกัน ดังนั้นจะเหมือนกับการที่แต่ละแบรนด์จะได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าอีกกลุ่มไปโดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มลูกค้าเป็น 2 เท่าเพราะกลุ่มลูกค้าที่เป็นลูกค้าของอีกแบรนด์อยู่แล้วก็มีโอกาสที่จะหันมาให้ความสนใจอีกแบรนด์ที่ทำ Collaboration Marketing ด้วย โดยหากแบรนด์ออก
สินค้าเองตามเดิมภายใต้ชื่อแบรนด์เดียว โอกาสในการจะขยายสินค้านั้นให้เข้ากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ โดยเริ่มจากศูนย์นั้นเป็นสิ่งที่ยากกว่ามากในปัจจุบัน ดังนั้นในแต่ละปี เอสบี ดีไซน์สแควร์ จะแสวงหาพาร์ทเนอร์ใหม่ๆ ที่จะมาร่วมทำโปรเจคพิเศษร่วมกัน เพราะเชื่อว่ายังเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจและสามารถเพิ่มคุณค่าให้กับแบรนด์ได้อย่างมาก” นายพิเดช กล่าวสรุป
|
