พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น หรือ PRI เปิดแผนธุรกิจปี 2567 “Elevate Your Living Experience” สู่ผู้นําธุรกิจ
การให้บริการเกี่ยวเนื่องกับอสังหาฯ สมัยใหม่แบบครบวงจร ชู 4 กลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กร ขยายบริการใหม่ไร้รอยต่อ
- ติดปีกทักษะบุคลากรร่วมกับสถาบันการศึกษา
- ต่อยอดนวัตกรรมใหม่ๆ
- ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม หวังยกระดับบริการอสังหาฯ และประสบการณ์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคอย่างครบวงจร สร้างคุณค่าระดับ Lifetime Value ดูแลคนทุกเจเนอเรชั่น
โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2567 ปิดยอดที่ 2,250ล้านบาท ปูทางสร้างรายได้ประจำอย่างมั่นคง
นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ
PRI ผู้นําธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจร เปิดเผยว่า แนวโน้มการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ให้ความสําคัญกับ 4 เรื่องหลัก ได้แก่
1. Smart Living Solutions ใส่ใจเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น ครบวงจรมากขึ้นในพื้นที่เดียว โดยไม่ต้องออกนอกที่พัก
2 .Sustainable LivingPractices ใส่ใจการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน ตั้งแต่การเลือกใช้ชีวิตในสถานที่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานทดแทน มีมาตรการจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ
3. Wellness & Well-being มองหาพื้นที่ใช้ชีวิตและไลฟ์ สไตล์ที่ตอบโจทย์การมีสุขภาพกาย สุขภาพจิต และสุขภาวะที่ดี และ 4. Flexible Living Arrangement ต้องการรูปแบบการใช้ชีวิตที่ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้
ในฐานะผู้นําธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจร บริษัทจึงจะเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจใน
ปี 2567 ภายใต้แนวคิด “Elevate Your Living Experience” ยกระดับงานบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์ พร้อมทั้งยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคอย่างครบวงจร ให้สอดคล้องกับแนวโน้มพฤติกรรมความต้องการภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
1. ขยายบริการใหม่ไร้รอยต่อ (Expanding Our Business Horizon) เพิ่มบริการและธุรกิจใหม่ทั้งกลุ่มบริการต้นนํ้า กลางนํ้า และปลายนํ้า ตอบโจทย์ความต้องการของระบบนิเวศอสังหาริมทรัพย์และ
ระบบนิเวศบริการในที่อยู่อาศัย โดยพัฒนามาตรฐานงานบริการเพื่อให้มีอัตราการต่อสัญญาที่สูงมากขึ้น เพื่อนําไปสู่การเป็นผู้เล่นในตลาดใหม่ๆ และทําการเจาะลูกค้ากลุ่ม B2C มากขึ้น อาทิ ธุรกิจตกแต่งภายใน ธุรกิจปรับปรุงภูมิทัศน์ธุรกิจที่ปรึกษาด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ธุรกิจการจัดการพื่นที่ส่วนกลางอาคารขนาดใหญ่ขยายการเข้ารับงานจากภาครัฐและภาครัฐวิสาหกิจ รวมถึงธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์สําหรับชาวต่างชาติ
2. ติดปีกทักษะบุคลากร (People Development) จับมือสถาบันการศึกษาที่มีหลักสูตรด้านอสังหาริมทรัพย์ 10 แห่งอาทิ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ร่วมพัฒนาหลักสูตรยกระดับทักษะและองค์ความรู้ให้แก่พนักงานในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ อาทิ กลุ่มงานที่ปรึกษา กลุ่มงานจัดการอาคาร รวมจํานวน 30 หลักสูตรภายในปีนี้ เพื่ออัปสกิลและรีสกิล (Upskill & Reskil) ให้ทั้งพนักงานปัจจุบัน และพนักงานใหม่ที่จะเข้าทํางาน ให้เข้าใจความต้องการและพฤติกรรมการอยู่อาศัยยุคใหม่ โดยพนักงานใหม่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ในตําแหน่งงานต่างๆ ได้ จําเป็นต้องผ่านการอบรมหลักสูตรที่เกี่ยวข้องไม่น้อยกว่า 3หลักสูตร
ขณะเดียวกันยังได้สร้างความร่วมมือกับกลุ่มสถาบันการศึกษาดังกล่าว นํานักศึกษาชั้นปีที่ 3-4 เข้าร่วมโครงการ ManagementTrainee กับ PRI เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่มีทักษะความสามารถตรงสายสามารถเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ PRI ได้ และสร้างโอกาสในสายงาน (Career Path) ให้แก่นักศึกษา เพื่อพัฒนาตัวตน นําไปสู่พนักงานผู้ให้บริการมืออาชีพในอนาคต
3. ต่อยอดนวัตกรรมใหม่ (Enhance Innovation + Technology) กับบริษัท ลิฟเทค แล็บ จํากัด PRI ร่วมทุนด้านเทคโนโลยียกระดับการให้บริการผ่านการพัฒนานวัตกรรมและและการเข้าถึงของข้อมูลผ่านแอปพลิเคชั่น Primo Plusโฉมใหม่ ให้มีฟังก์ชั่นและประสิทธิภาพที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น
พร้อมทั้งพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ๆ อํานวยความสะดวกงานบริการ อาทิ แพลตฟอร์มจองแม่บ้านทําความสะอาด แพลตฟอร์มติดตามงานซ่อมบํารุงอัตโนมัติ ตลอดจนแพลตฟอร์มการจัดการผู้มาติดต่อภายในโครงการ (Visitor Management) โดยมีแนวคิดจะทําบางแพลตฟอร์มวางจําหน่ายแบบ WhiteLabel ด้วย
4. ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม (ESG & Sustainability for Future Living) ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เกิด
การจัดการของเสีย (Waste Management) การประหยัดพลังงาน (Energy Saving) ความใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมในโครงการที่อยู่อาศัยที่ PRI เข้าไปบริหารจัดการอาคาร
นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า กลยุทธ์ดังกล่าว จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของบริษัท ยกระดับงานบริการของบริษัทให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่มากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มอัตราการรักษาลูกค้าระยะยาว (Retention Rate) เพิ่มโอกาสเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ๆ ทั้งกลุ่มต้นนํ้า กลางนํ้า ปลายนํ้า ช่วยให้ดูแลผู้บริโภคได้อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น และเป็นรากฐานการสร้าง PRI ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
สําหรับปี 2567 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 2,250 ล้านบาท โดยมองโอกาสขยายตัวจากกลุ่มธุรกิจใหม่ ตลอดจนการขยายฐานจํานวนลูกค้าโครงการทั้งในกลุ่มต้นนํ้า กลางน้ำ และปลายน้ำ
สําหรับ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูช9ัน จํากัด (มหาชน) หรือ PRI เป็นผู้ดําเนินธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับ
อสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรชั้นนําของประเทศ มีประสบการณ์กว่า 11 ปี ปัจจุบัน ดําเนินธุรกิจภายใต้ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่
1. กลุ่มธุรกิจต้นนํ้า – บริการก่อนเข้าอยู่อาศัย (Pre-Living Services) อาทิ บริการที่ปรึกษาควบคุม
งานก่อสร้าง บริการออกแบบด้านสถาปัตยกรรม งานโครงสร้ าง งานโยธา และงานระบบ บริการจัดฝึกอบรมและ
พัฒนาทักษะบุคลากร
2. กลุ่มกลางน้ำ – บริการการจัดการเพื่อการอยู่อาศัย (Living Services) อาทิ บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรร ห้างสรรพสินค้า อาคาร และสํานักงาน บริการอพาร์ตเมนท์แบบพรีเมี่ยม บริการซื้อ-ขาย-ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร
และ 3. กลุ่มปลายนํ้า - บริการหลังการขายที่อยู่อาศัย (Living & Earning Services) อาทิ บริการแม่บ้านและช่าง บริการออกแบบและตกแต่งภายใน
|